(มีคลิป) “อภิวัฒน์” หอบหลักฐานขึ้นโรงพักเมืองเชียงใหม่ แจ้งดำเนินคดี “อานนท์” ขึ้นปราศรัยชุมนุมท่าแพ ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ส.ค. 63 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพบูลย์ นามทอง รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อกล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายอานนท์ นำภา ทนายความกับพวกกรณีที่ได้มีการจัดการชุมนุมปราศรัยละเมิดกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 6 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามมิให้ชุมนุมมั่วสุม และกฎหมายอาญามาตรา 116 และมาตรา 215 ที่ได้มีการจัดชุมนุมปราศรัยที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา และในการปราศรัยดังกล่าว นายอานนท์ นำภา ได้ปราศรัยล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย โดยเข้าข่าย บิดเบือนข้อความจริง พูดปราศรัยดูหมิ่น หมิ่นประมาท เสียดสี และยุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความแตกแยกความสามัคคี ความวุ่นวายปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย ความชิงชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ทั้งนี้ทาง นายอภิวัฒน์ ขันทอง เปิดเผยว่า ในการเดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้ก็สืบเนื่องมาจากการที่ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ส.ค. 63 ที่ผ่านมาที่ทาง นายอานนท์ นำภา ได้มาร่วมมขึ้นเวทีปราศรัยชุมนุมที่จัดขึ้นบริเวณข่วงประตูท่าแพ ซึ่งในการปราศรัยดังกล่าวก็มีการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง และไม่ว่าใครก็แล้วแต่เมื่อได้ยินได้รับฟังก็ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังมีการยุยงปลุกปั่น ขณะเดียวกันตัวของ นายอานนท์ นำภา ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ถูกออกหมายจับและศาลได้เมตตาให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีการกำหนดเงื่อนไข แต่ปรากฎว่าก็ยังมากระทำความผิดในข้อหาเดิม ๆ โดยการยุยงปลุกปั่นโดยการขึ้นปราศรัยให้ประชาชนหรือบุคคลใดก็ตามที่ได้ฟังเกิดความเข้าใจผิด หลงผิด ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ก่อให้เกิดความวุ่นวายในหมู่ชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของ นายอานนท์ นำภา ตนจึงมายื่นคำร้องขอกล่าวโทษ เพื่อให้ทางท่านผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับ นายอานนท์ นำภา ตามกฎหมายต่อไป

 

ขณะเดียวกันในส่วนของการละเมิดที่ นายอานนท์ นำภา กระทำความผิดนั้นหากตามหลักกฎหมายเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งมีความผิดแน่นอน แต่ก่อนหน้านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระกรุณาธิคุณรับสั่งให้ละเว้นการดำเนินคดีในมาตรานี้ และแทนที่ นายอานนท์ จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ไม่เอาโทษ กลับอาศัยเป็นช่องทางยุยง ปลุกปั่น ว่ากล่าวให้ร้ายสถาบัน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ตนเองในฐานะคนไทย ที่มีใจรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติไทย ที่คนไทยต้องเชิดชูไว้บนฟ้า ยอมไม่ได้ที่มีผู้มากล่าวหาและจาบจ้วงสถาบันหลักของชาติ จึงต้องมาแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในส่วนของสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ภายหลังจากได้รับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วนั้นก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยในส่วนนี้ต้องนำเรียนว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ได้มีการชุมนุมที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และตำรวจภูธรภาค 5 ก็ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานส่วนหนึ่งแล้ว และในวันนี้ก็ได้มีการเสนอหลักฐานดังกล่าวไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการดำเนินการกับกลุ่มของ นายอานนท์ นำภา และพวก ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะตรวจสอบจากพยานหลักฐานที่มี รวมทั้งรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินการตรงจุดนี้ให้ถึงที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น