กระทรวงแรงงาน จัดโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เร่งเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สถานประกอบการฟื้นตัว จากผลกระทบโควิด-19 โดยเร็ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลายลง โดยนำนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ” เข้ามาดำเนินการ เพื่อมีเป้าหมายที่จะผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันวางแผน เพื่อกำหนดอนาคตประเทศไทย” ซึ่งจากนี้ไปรัฐบาลจะต้องทำงาน โดยดึงทุกภาคส่วน ทุกระดับในสังคม เข้ามามีส่วนร่วม และมีบทบาทมากขึ้น ในการช่วยกันกำหนดอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะการเร่งเยียวยาความเจ็บปวดที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ และประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ที่ต้องตกงานในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนการสร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจต่างๆ ยังคงการจ้างงานลูกจ้างของธุรกิจต่อไป และให้ภาคธุรกิจต่างๆ ใช้ช่วงเวลานี้ พลิกองค์กรของตัวเองให้กลายเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มีโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ซึ่งสำนักงานประกันสังคมจะ ร่วมกับ สถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้แก่สถานประกอบการ โดยโครงการดังกล่าวจะทำข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ โดยสำนักงานประกันสังคมจะสนับสนุนเงินฝากเพื่อให้ธนาคารนำไปปล่อยกู้ ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี กรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยสถานประกอบการที่จะยื่นกู้ได้ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องรักษาสถานภาพการจ้างงานผู้ประกันตน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 เป็นระยะเวลา 3 ปี สามารถยื่นกู้ได้ถึง 31 ธันวาคม 2563 แบ่งเป็น วงเงิน 18,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างน้อยกว่า 50 คน สามารถกู้ได้ไม่เกินวงเงิน 5 ล้านบาท วงเงิน 9,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 51 – 200 คน สามารถกู้ได้ไม่เกิน วงเงิน 10 ล้านบาท และวงเงิน 3,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 201 คนขึ้นไป สามารถกู้ได้ไม่เกินวงเงิน 15 ล้านบาท

“ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอหนังสือรับรองสถานะสถานประกอบการ ได้ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่ง เพื่อนำไปติดต่อขอยื่นกู้กับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563 มาตรการดังกล่าว จะช่วยเป็นทุนหมุนเวียนและเสริมสร้างสภาพคล่อง ในสถานประกอบการรักษาสภาพการจ้างงาน ยังทำให้เกิดทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย”นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น