ผวจ.เชียงราย ให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรป ในโอกาสเยือน จ.เชียงราย

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับ His Excellency Mr.Prikka Tapiola เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย ในโอกาสเยือนจังหวัดเชียงราย และเยี่ยมคำนับผู้บริหารราชการแผ่นดินของจังหวัดฯ เมื่อเช้าวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2563 ที่ห้องรับรอง สำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

โดยมี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายกฤษณะ พินิจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฯ นางวนิดา ทิพย์ศักดิ์ พาณิชย์จังหวัดฯ นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดฯ นายเฉลิมพล เนียมสกุล แรงงานจังหวัดฯ นายเสริฐ ไชยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ น.ส.รัชนี ตรัยตรึงโกศล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯ นายสมบูรณ์ ศรีไพศาลเจริญ ผู้อำนวยการ กลุ่มงานอำนวยการสำนักงานจังหวัดฯ นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดฯด้านเศรษฐกิจ นายฉัตรชัย พัฒนานุภาพ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนคลังจังหวัดฯ ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางจังหวัดฯ และนายภาณุฉัตร สวัสดิชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ ร่วมในการต้อนรับ พร้อมให้ข้อมูลที่สำคัญและอยู่ในความสนใจของผู้มาเยือน

โดย His Excellency Mr.Prikka Tapiola เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย มีความสนใจแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของจังหวัดเชียงราย ภายหลังสถานการณ์การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ covid-19 ตลอดทั้งการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับสหภาพยุโรปในระดับภูมิภาค โดยการสนทนาเอกอัครราชทูต Mr.Prikka Tapiola ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝนตกและเกิดอุทกภัย การได้มาจังหวัดเชียงราย จึงได้ท่องเที่ยวสถานที่สวยงามและมีคุณค่าทางศิลปะ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทางสาธารณสุข ข้อเสนอการให้ความช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาโควิด-19

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงหลักการและปฏิบัติการกักตัวเมื่อเผชิญสถานการณ์โควิดของจังหวัดเชียงราย ตามแนวทางของรัฐบาลที่ได้ผลดี และประชาชนพึงพอใจเต็มใจให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ในการป้องกันตัวเอง แม้จะเกิดการว่างงานและไร้การจ้างงานชั่วคราว แต่ได้พยายามบริหารจัดการให้กลับสู่สภาวะปกติด้วยกลไกต่าง ๆ ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ และยังใช้กลยุทธ์ในการตรวจคัดกรองที่เข้มข้น การใช้แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” อย่างจริงจังและได้ผลดี ส่งผลให้มีการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวอย่างหลากหลายเพิ่มมากขึ้น

EU มุ่งสู่การแก้ปัญหาให้มีผู้ป่วยเป็นศูนย์ด้วยวัคซีน และเห็นว่าจังหวัดเชียงราย ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นเมืองแห่งศิลปะและการกีฬา มีศิลปินหลากหลายสาขา มีผลงานการพัฒนาในระดับชั้นนำของประเทศ ซึ่ง EU ให้ความสำคัญและยินดีที่จะมีส่วนร่วมมืออย่างใกล้ชิดและยั่งยืนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับ EU เนื่องจากเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 500 ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ปีละประมาณ 17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12 ล้านล้านยูโร ในปี 2554 และเป็นภูมิภาคที่มีอำนาจซื้อสูงที่สุดในโลก EU จึงเป็นยักษ์ใหญ่ในเวทีการค้าโลกที่มีอำนาจต่อรองสูงและมีบทบาท ในการกำหนดทิศทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นผู้นำด้านกฎระเบียบและนโยบายด้านการค้า และที่มิใช่การค้าที่สำคัญของโลก

EU ให้ความสำคัญต่อไทยในฐานะหุ้นส่วนสำคัญของ EU ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในมิติการเมืองและความมั่นคง โดยประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งในกรอบอื่น ๆ เช่น อาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU) และในกรอบ ARF (ASEAN Regional Forum) และต้องการความร่วมมือจากไทยในประเด็นภูมิภาคที่ EU ให้ความสำคัญโดยเฉพาะเมียนมา การพัฒนาประชาธิปไตยและการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง ให้ไทยสนับสนุนบทบาทของ EU ในภูมิภาค เช่น ในกรอบ ASEAN / EAS รวมทั้งความร่วมมือแบบไตรภาคี

ยุทธศาสตร์ไทยต่อ EU คือ การเน้นจุดร่วมว่า ทั้งไทยและ EU ต่างยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตย ระบบการค้าเสรี และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน และทำให้ EU มีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพและความต่อเนื่องของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทย ตลอดจนทำให้ EU มองไทยเป็นหุ้นส่วนหลักในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยในการขยายการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก EU และการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาวอีกด้วย

โดยการมาเยือนจังหวัดเชียงรายของ His Excellency. Mr.Prikka Tapiola เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย ในครั้งนี้ จึงเป็นผลดีต่อจังหวัดเชียงราย ในการสร้างความเข้าใจอันดี ความร่วมมือ และความปรารถนาดี ที่จะก่อให้เกิดมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูง อีกทั้ง ยังเป็นการเติมเต็มให้จังหวัดเชียงราย เป็นคู่ค้าที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจคู่กับสหภาพยุโรป รวมทั้ง เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่อยู่ในความสนใจของสหภาพยุโรป ที่จะต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงวงแหวนถนนสายไหม แห่งศตวรรษที่ 21 OBOR ทั้งในด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปและแอฟริกา กว่า 60 ประเทศ ให้เข้าถึงกันในอนาคตอีกด้วย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น