เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 18 ส.ค. 63 ที่ห้องศูนย์ข้อมูลข่าสารเฉพาะกิจ จ.เชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและโรคติดเชื้อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ พ.ต.ต.ณัฐพล ชุ่มบัวตอง สว.ตม.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าว กรณีพบผู้สัมผัสกับชาวต่างชาติ (มาเลเซีย) และบุคคลดังกล่าวได้เข้ามาท่องเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ และการดำเนินการจับกุมแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง ที่ อำเภออมก๋อย จำนวน 43 คน ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวและการเกิดข้อกังวลใจของพี่น้องประชาชนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรสโควิด-19 ขึ้นอีกครั้ง
โดยในการนี้ทาง นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีรายงานว่ามีผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่นั้น เรียนว่าเป็นความจริง โดยผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายงนี้เป็นเพศหญิง อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 17 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา โดยเดินทางมากับเพื่อนด้วยกันอีก 5 คน และเมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ได้เช่ารถตู้ เดินทางไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ และหลังจากนั้นเดินทางเข้าที่พักที่ม่อนแจ่ม โดยผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายนี้ ได้มีการระมัดระวังและป้องกันตัวเป็นอย่างดี และจากการที่กรมควบคุมโรคติดต่อได้ประสานงานมายังจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการเชิญตัวสุภาพสตรีท่านดังกล่าวมาตรวจ โดยผลตรวจออกมาแล้วว่า “มีผลเป็นลบ” จึงได้มีการนำข้อมูลมาแจ้งให้ทราบเพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชน และทุกฝ่าย โดยในส่วนของผู้สัมปัสผู้ติดเชื้อรายนี้ตอนนี้ได้อยู่ภายในโรงพยาบาลนครพิงค์
ส่วนประเด็นเรื่องของการจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทางชุดปฏิบัติการที่เฝ้าระวังตามแนวชายแดนได้มีการตรวจพบการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมา และได้มีการจับกุมนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ตื่น และส่งมาที่ ตม.เชียงใหม่ โดยแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายนี้ มีจำนวน 43 คน ขณะนี้ได้อยู่ในสถานที่กักกันยังศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จ.เชียงใหม่ โดยทั้งหมด 43 คน แบ่งเป็น ชายจำนวน 26 และหญิง 17 คน โดยมีอายุตั้งแต่ 6-42 ปี โดยแรงงานเหล่านี้ทางจังหวัดได้ประสานทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตรวจคัดกรอง ผลปรากฎว่าทั้ง 43 คน “มีผลเป็นลบ” แต่ทั้งนี้จำนวนทั้ง 43 คน ยังต้องอยู่ภายในสถานที่กักกัน เป็นเวลาทั้งสิ้น 14 วัน หลังจากนั้นจึงจะมีการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ยังคงมีการตรวจ ป้องกัน คัดกรอง อย่างสม่ำเสมอ ทั้งกระบวนการในเรื่องของการตรวจติดตามตามแนวชายแดน หรือเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงการดำเนินการของคณะกรรมการโควิดหมู่บ้านที่ยังมีการซักซ้อมอยู่เสมอ และที่สำคัญคือการระมัดระวังตัวของประชาชน ซึ่งต้องมีการป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคว่าทางเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ร่วมแสดงความคิดเห็น