ตร.แม่โจ้ เร่งตามกระบะชนแล้วหนี แถมเบรคให้พลเมืองดีที่ขับตามชนท้ายอีก

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2563 เพจ “หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยเทศบาลเมืองแม่โจ้” โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ที่พลเมืองดีขับจักรยานยนต์ติดตามรถยนต์กระบะคันหนึ่งที่ชนรถกระบะอีกคันหนึ่งที่จอดข้างทางขาออกเมือง บริเวณหน้าโรงเรียนสันทรายวิทยาคม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้รับความเสียหาย แล้วขับย้อนศรหลบหนีไปทางหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเลี้ยวซ้ายไปทางตัวอำเภอสันทราย ซึ่งระหว่างที่ พลเมืองดีถ่ายคลิป หมายเลขทะเบียนรถยนต์กระบะเพื่อเป็นหลักฐาน รถคันดังกล่าวได้ตั้งใจเบรคให้ชนท้าย จนพลเมืองดีได้รับบาดเจ็บ แล้วหลบหนีไป ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้แสดงความเห็นและแชร์ต่อจำนวนมาก

ต่อมาวันเดียวกัน ที่สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายธนัฐชา จิรัตน์ อายุ 19 ปี ชาวอำเภอสันทราย คนขับรถจักรยานยนต์ตามรถยนต์กระบะที่ชนแล้วหนี แต่ถูกเบรคให้ชนท้ายจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ และนายชลกานต์ มอญสร้อย อายุ 18 ปี ชาวอำเภอสันทราย ผู้เสียหายเจ้าของรถยนต์กระบะที่จอดข้างทางแล้วถูกชนเข้าพบ ร.ต.อ.วรบุตร ภิญโญ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ เพื่อแจ้งความและให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้นายธนัฐชา เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุได้แวะกินหม่าล่าที่ร้านบริเวณตรงข้ามกับโรงเรียนสันทรายวิทยาคม พร้อมกับกลุ่มเพื่อน ระหว่างนั้นรถยนต์กระบะคันหนึ่งที่ขับ มาด้วยความเร็วได้เสียหลักหมุนควงกลางถนนแล้วพุ่งชนรถยนต์กระบะของเพื่อนที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหาย รวมทั้งทำให้รถจักรยานยนต์และข้าวของที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวบรรทุก ด้วยตกกระจายเต็มถนน แต่แทนที่รถกระบะคันดังกล่าวจะจอดลงมาแสดงรับผิดชอบ กลับขับย้อนศรหลบหนีไป

ตัวเองจึงตัดสินใจใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่ติดตามไป เพื่อบอกให้คนขับที่เป็นผู้ชายและมีผู้ชายอีกคนนั่งมาด้วยหยุดรถ แต่ไม่เป็นผล จึงนำเอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรถยนต์คันก่อเหตุและหมายเลขทะเบียน เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน จังหวะนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้ตั้งใจเบรคให้ตัวเองชนท้ายจนได้รับบาดเจ็บ และหลบหนีไป ซึ่งยังดีที่ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานได้ พร้อมเข้าแจ้งความเพื่อติดตามตัวมารับผิดชอบและดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

ด้านร.ต.อ.วรบุตร ภิญโญ พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบหมายเลขทะเบียนรถยนต์กระบะคู่กรณีแล้ว และตรวจสอบทราบชื่อผู้ครอบครองรถแล้วเป็นผู้หญิงอยู่ในพื้นที่อำเภอสันทราย เตรียมเชิญตัวมาสอบปากคำเพื่อหาตัวคนขับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาขับขี่โดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหายและไม่หยุดให้การช่วยเหลือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น