ผวจ.น่าน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเวียงสา พร้อมแจกถุงยังชีพ

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่บ้านต้นหนุน ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา เพื่อตรวจสภาพพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน โดยน้ำจากลำน้ำสา และลำน้ำน่าน เอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนบ้านเรือนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบพร้อมให้กำลังใจ หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพเทศบาลตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา ซึ่งมีประชาชนประมาณ 10 คนจาก 4 ครอบครัวไปพักอาศัยอยู่ เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ในจำนวนนี้มีนางสาวเมตตา พัดบางซื่อ ชาวบ้านดอนแท่น หมู่ 2 ซึ่ง เป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วยโรคแขนขาอ่อนแรงพักอยู่ด้วย โดยก่อนหน้านี้มีคนไข้หนักโรคหัวใจ ซึ่งทางศูนย์ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเวียงสาแล้ว

หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้เดินทางต่อไปยังหอประชุมที่ว่าการ อำเภอเวียงสา เพื่อส่งมอบถุงยังชีพ ให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ผ่านนายเกรียงไกร เวชอนุรักษ์ นายอำเภอเวียงสา เพื่อนำไปส่งต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยอำเภอเวียงสาได้จัดตั้ง ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่หอประชุมอำเภอเวียงสา มีหน่วยทหาร ม.พัน 15 นำรถโมบายมาปรุงอาหารเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ผู้ประสบภัยวันละประมาณ 2,000 กล่อง

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้เน้นย้ำให้นายอำเภอและผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ให้การดูแลประชาชนผู้ประสบภัยอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยในระยะนี้จะสำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบความเสียหายช่วยเหลือเบื้องต้น เป็นอาหารและน้ำ เป็นเครื่องอุปโภคบริโภค หลังจากนั้น จะทำการสำรวจ พื้นที่เกษตรและบ้านเรือน กรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง จะได้รับ เงินชดเชยหลังละ 30,000 บาท ส่วนพื้นที่เกษตร ทางสำนักงานเกษตรจังหวัด และเกษตรอำเภอ จะเข้าทำการสำรวจและชดเชยตามระเบียบราชการต่อไป

นอกจากทางราชการจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และศูนย์กู้ภัยจากจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งอุตรดิตถ์ พิษณุโลก เชียงใหม่ ก็ได้จัดส่งทีมมาให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่านเช่นกัน โดยอุทกภัยครั้งนี้ พื้นที่ที่เสียหายเป็นวงกว้างมากที่สุดคืออำเภอเวียงสา เนื่องจากมีแม่น้ำและลำน้ำสาขาถึง 7 สายอยู่ในพื้นที่

อย่างไรก็ตามล่าสุด ไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดน่านและคาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ตามลำดับ

ร่วมแสดงความคิดเห็น