ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร จับแล้วคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ หลังหนีกบดาน ถูกตามล่าตัวและจับกุมได้แล้ว

วันที่ 28 สิงหาคม 2563 ที่ บริเวณร้านสะดวกซื้อชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ด้านข้างสถานศึกษาเอกชนชื่อดัง ถนนพหลโยธิน ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด สืบสวน สภ.เขลางค์นคร  ได้ติดตามล่าตัว และสามารถจับกุมตัวมาได้ พร้อมได้ควบคุมตัวมาเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมี พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ สิงห์ทองลา ผกก.สภ.เขลางค์นคร พ.ต.ท.วีระชาติ บ่อคำ รอง ผกก.สส. และพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง คือ นายมนต์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อยู่ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกขั้นตอน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผู้ต้องหามาสุ่มด้านข้างร้านสะดวกซื้อ เพื่อเตรียมก่อเหตุ จากนั้นเริ่มก่อเหตุตั้งแต่เดินเข้าไปในร้าน และก่อเหตุชิงทรัพย์ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งใช้เวลาทำแผนอย่างละเอียดกว่าครึ่งชั่วโมง

จากนั้นได้คมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ สภ.เขลางค์นคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้เหตุชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 03.05 น. ได้รับแจ้งเหตุ ชิงทรัพย์จากศูนย์วิทยุสื่อสาร ว่ามีคนร้ายเป็นชาย ไม่ทราบอายุ แต่งกายชุดดำปิดบังใบหน้า เดินเข้าร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ พร้อมถือถุงสีขาวห่อหุ้มด้วยวัตถุไม่ทราบว่าเป็นอาวุธ หรือสิ่งใด พูดข่มขู่พนักงานหญิง ให้ส่งมอบเงิน และพนักงานได้ส่งเงินให้คนร้าย 4,771.25 บาท แล้วหลบหนีไป

ต่อมาจากการสืบสวนของชุดสืบสวน สภ.เขลางค์นคร และ กก.สส.ภ.จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 พบบุคคลลักษณะคล้ายบุคคลในภาพกล้องวงจรปิด ชื่อว่า นายจิ๋ว เป็นคนนอกพื้นที่ ได้มาเช่าพักอาศัยอยู่ในชุมชนศรีปง อยู่ใกล้ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว และพบว่าขัดสนเรื่องเงิน จึงได้สืบสวนและออกติดตามหานายจิ๋ว และทราบชื่อจริงว่า นายมนต์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อยู่ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ ได้เช่าพักอาศัยบ้านหลังหนึ่งใน ตำบลชมพู อำเภอเมืองลำปาง

เจ้าหน้าที่ได้เชิญ นายมนต์ชัย มาเพื่อซักถามปากคำและตรวจค้นบ้านพัก ก่อนทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้พบรองเท้าสีดำหุ้ม ปลายเท้าที่มีลักษณะคล้ายรองเท้าของคนร้านที่ก่อเหตุ จึงยึดไว้ตรวจสอบ ในการซักถามปากคำนายมนต์ชัย ได้ให้การปฏิเสธ ขณะที่ผู้เสียหายได้รับฟังเสียงของนายมนต์ชัย ยืนยันว่ามีลักษณะ และน้ำเสียงคล้ายคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามติดต่อนายมนต์ชัย แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบบ้านของนายมนต์ชัย พบว่าได้หลบหนีไปแล้ว

เจ้าหน้าที่เห็นว่านายมนต์ชัย มีพฤติกรรมหลบหนี จึงได้ออกหมายจับนายมนต์ชัย เพื่อดำเนินคดีและในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบพบว่านายมนต์ชัย เดินทางไปที่ อำเภอผาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่ทุกสายในการสกัดจับนายมนต์ชัย จนสืบทราบว่า นายมนต์ชัย ได้ซื้อตั๋วรถไฟ จากสถานีดอนเมือง ไปสถานีหัวดง จังหวัดพิจิตร และสามารถสกัดจับกุมที่ได้ที่ สถานีรถไฟจังหวัดนครสวรรค์ จากการสอบถาม นายมนต์ชัย ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ก่อเหตุจริง และเป็นบุคคลในภาพกล้องวงจรปิดจริง และให้การรับ สารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จากจังหวัดลำปาง มุ่งสู่จังหวัดพิจิตร และได้ขึ้นรถไฟ จากจังหวัดพิจิตร ไปกรุงเทพฯเพื่อไปหาแฟนสาว และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ได้ขึ้นรถไฟ จากสถานีดอนเมือง กรุงเทพฯไปสถานีหัวดง จังหวัดพิจิตร เพื่อกลับไปหามารดาของตน และหวังจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จังหวัดลำปาง แต่มาถูกจับเสียก่อน ทั้งนี้พบว่าร้านสะดวกซื้อดังกล่าวเตรียมย้าย ปิดสาขาที่เกิดเหตุแห่งนี้ และเตรียมย้ายไปสถานที่แห่งใหม่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในเร็ว ๆ นี้แล้ว หลังจากที่เปิดร้านมาถูกคนร้ายก่อเหตุมาถึง 2 ครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น