(มีคลิป) คณะกรรมาธิการวุฒิสภาลงพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน ติดตามความคืบหน้า การส่งเสริมศักยภาพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA ของกระทรวงพาณิชย์

วันที่ 10 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมาธิการ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา นำโดยนางอภิรดี ตันตราภรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน เพื่อติดตามการพัฒนาศักยภาพฟาร์มโคนมไทยรับมือการค้าเสรี ของฟาร์มโคนมของบริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด ที่เคยเข้าร่วมโครงการ “จัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA” ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในช่วง ปี 2561-2563 เพื่อร่วมอบรมพัฒนาศักยภาพและความพร้อมในการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในกลุ่มประเทศผู้นำเข้าที่ได้ยกเลิกไม่เก็บภาษีศุลกากรกับนมและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้ว

โดยทาง นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด เป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่ของภาคเหนือ เลี้ยงวัวนมในพื้นที่กว่า 200 ไร่ มีระบบรีดนมที่เป็นระบบปิดแบบอัตโนมัติและเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีการนำมูลโคมาผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas) อย่างเป็นระบบ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ม ปัจจุบันมีกำลังการผลิตนม UHT และนมพาสเจอร์ไรส์ 180 ตัน/วัน ส่วนหนึ่งป้อนให้กับโครงการนมโรงเรียนและโรงงานในประเทศ และอีกส่วนส่งออกเครื่องดื่มนมปรุงแต่ง UHT ไปประเทศเมียนมา ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ สามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ในการส่งออกได้

 

จากการเข้าร่วมโครงการ “จัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA” ของกรมฯ บริษัทมีโอกาสเดินทางไปเจรจาจับคู่ธุรกิจและสำรวจตลาด เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมของจีนและสิงคโปร์ และพบว่าบริษัทได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนาศักยภาพกระบวนการเลี้ยงโคนม การผลิตนมดิบและผลิตภัณฑ์นม อีกทั้ง ยังได้เตรียมพร้อมที่จะส่งออกและใช้ประโยชน์จาก FTA โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดอาเซียนและจีนปัจจุบันคู่ FTA 14 ประเทศ (จาก 18 ประเทศ) ได้แก่ สมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู และฮ่องกง ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้านมและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้ว เหลือเพียง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และชิลี ที่ยังเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าดังกล่าวบางรายการกับไทย เช่น ญี่ปุ่นเก็บภาษีศุลกากรกับผลิตภัณฑ์นมที่ 21.3-25.5% เป็นต้น

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อุตสาหกรรมนมโคแปรรูปของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง มูลค่าการค้าและการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2560-2562) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดโลก 536 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก ปี 2561 โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อาเซียน (คู่ค้าหลัก เช่น กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ ลาว และสิงคโปร์) ส่วนแบ่งตลาด 82.7% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมทั้งหมดของไทย จีน ส่วนแบ่งตลาด 5.4% และฮ่องกง ส่วนแบ่งตลาด 3.4% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ นมพร้อมดื่มยูเอชที นมเปรี้ยว โยเกิร์ต และนมจืด สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลก มูลค่า 335 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9% จากช่วงเดียวกันของ ปี 2562 โดยมีอาเซียน จีน และฮ่องกง เป็นตลาดส่งออกหลัก

ร่วมแสดงความคิดเห็น