สั่งทุกอำเภอห้ามเรียกรับเงิน ออกบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน บัตรหัวศูนย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะของนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมผู้บริหารกรมฯ ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ในโอกาสนายกรัฐมนตรีเดินทางมาปฏิบัติราชการ เมื่อ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้มอบนโยบายที่ว่าการอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย พร้อมมอบบัตรประจำตัวประชาชนให้ผู้สูงวัยกลุ่มผู้ไร้สัญชาติและมอบบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนของเด็กนักเรียน พร้อมมอบแนวทางทำงาน เน้นย้ำให้นายอำเภอและข้าราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มอำเภอซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนหรือใกล้ประเทศเพื่อนบ้าน

“เรื่องสัญชาติและสถานะบุคคลเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ขอให้เอาใจใส่ดูและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
ความโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ขั้นตอน หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้มีการเรียกผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด ในปีงบประมาณ 2564 กรมการปกครอง จะดำเนินการเรื่องสัญชาติและสถานะบุคคลอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ในการอบรมโครงการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่นายอำเภอ 4.0 นั้นอธิบดีกรมการปกครองได้เน้นย้ำ “การครองตน ครองคน ครองงาน” และ “ความซื่อตรง ความอุตสาหะ ความอารี” ที่นายอำเภอจะต้องยึดถือปฎิบัติให้ได้ในพื้นที่ และให้ความสำคัญงานบริการ ให้ประชนชนเกิดความประทับใจและเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน่วยงาน

นอกจากนั้นส่วนงานด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนผู้ปฎิบัติงานที่ทำการปกครอง ต้องมีความรู้ความเข้าใจ
ในการปฎบัติงานให้ถูกต้อง แนวทางการให้บริการที่เป็นเลิศ และระบบตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรทำงานเชิงรุก ทั้งในจุดบริการที่อำเภอ นอกสถานที่ตั้ง ในรูปแบบหน่วยบริการอำเภอเคลื่อนที่

อย่างไรก็ตาม หลังจาก เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์ ได้นำเสนอประเด็น ขบวนการเรียกรับผลประโยชน์ในการจัดทำบัตรหัวศูนย์ หรือบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ในพื้นที่ อ.เวียงแหง ซึ่ง สำนักงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และหน่วยงานด้านความมั่นคง ตลอดจน กรมคดีพิเศษ, ศูนย์สืบสวน ภาค 5 และหลายภถาคส่วนร่วมติดตามเบาะแส ขบวนการจนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 2 ราย ในบริเวณที่ว่าการอำเภอ ต่อมา อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งเมื่อ 23 ก.ย. 2563 ย้ายด่วนนายอำเภอเวียงแหงไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง มีผลตั้งแต่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น

 

ล่าสุด มีประชาชน และกลุ่มบุคคลที่ยื่นเรื่อง ขอจัดทำบัตรประจำตัวบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ในหลาย ๆ พื้นที่
ทั้งเชียงใหม่และต่างจังหวัด ทยอยแจ้งเบาะแส ให้ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ อำเภอติดแนวชายแดนเชียงใหม่ โดยระบุการเรียกรับประโยชน์หัวละ 5-6 หมื่นบาท ในการยื่นเรื่องตามหลักเกณฑ์

“ขนาดผู้นำชุมชน เสนอเรื่องเข้าไป ยังต่อรองขอรายละ 1-2 หมื่นบาท สร้างความลำบากใจให้กลุ่มผู้นำชุมชนที่ไม่
สนับสนุน กระบวนการแบบนี้ เป็นการสร้างความลำบากให้ประชาชน ส่วนกลุ่มที่พร้อมจะแลกความสะดวกสบาย ก็น่ากังวลว่า หาเงินจำนวนมากมาเพื่อแลกบัตรนี้ได้อย่างไร”

ด้านหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติการ ติดตาม ตรวจสอบ ขยายผล การทุจริตในการจัดทำบัตรหัวศูนย์-บัตรต่างด้าวหรือบัตร
ประจำตัวบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนในพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวว่า ปัญหานี้ความสลับซับซ้อน ต้องมีหลักฐานชัดเจน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เฝ้าติดตามมานานจะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ

“ขอบคุณทุกเบาะแส ทั้งจากสื่อท้องถิ่น สื่อในเชียงใหม่ และชาวบ้านที่ร่วมแจ้งข้อมูล ผ่านช่องทางต่าง ๆ จะรวบรวม
นำเสนอหน่วยเหนือ เพื่อพิสูจน์ทราบต่อไป บรรดาบัตรปลอม การทลายแหล่งขบวนการบัตรเหล่านี้ ที่แต่ละชุดดำเนินการในหลาย ๆ จังหวัด ยังไม่เจ็บปวดเท่าบัตรจริง ออกโดยหน่วยงานราชการ แต่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ก้อนโต สังคมต้องช่วย ๆ กันติดตาม แจ้งเบาะแส เพื่อจัดการกลุ่มขบวนการนี้ต่อไป”

ร่วมแสดงความคิดเห็น