ร้านค้าเชียงใหม่ กังวลปมเห็นต่าง สื่อสังคมปักหมุดฝ่ายตรงข้าม หวั่นทะเลาะในร้าน

ผู้ประกอบการร้านอาหาร ย่านสถานศึกษาในเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีที่มีการขึ้นป้าย แสดงจุดยืนในรูปแบบต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง ด้วยข้อความพิมพ์บนแผ่นไวนิล ขึงติดหน้าร้าน เขียนบนแผ่นกระดาษติดบริเวณประตูทางเข้าร้านหรือแผงค้าขายนั้น แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวในความเห็นต่าง แต่ก็ไม่ควรเป็นชนวนสร้างความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาทกัน นอกจากนั้น ตามสื่อสังคม ในกลุ่มเยาวชนและช่องทางสื่อสาร แสดงออกทางการเมือง มีการเผยแพร่ รายชื่อร้านค้า สถานที่ซึ่งระบุว่า เป็นขั้วเห็นต่าง เป็นสลิ่ม ไม่ใช่พวกเดียวกัน ไม่ต้องไปอุดหนุน ใช้บริการ

ผู้สื่อข่าว สอบถามเจ้าของร้านที่ถูกพาดพิง กล่าวว่า ไม่ไปตอบโต้ หรือประกาศแสดงจุดยืนอะไรออกไป เพราะร้านขายอาหาร ด้วยฝีมือ คุณภาพ ลูกค้าที่มาใช้บริการก็ล้วนเป็นลูกค้าประจำ ไม่ใช่กลุ่มใด กลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนไหว แสดงออกเชิงสัญญลักษณ์ในขณะนี้

เจ้าของร้านข้าวแกง และ ร้านเครื่องดื่มดัง ย่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อเห็นรายชื่อร้าน ในสื่อสังคมที่เผย
แพร่ต่อ ๆ กัน ยอมรับว่า อึ้ง แต่เคารพ ในความเห็นต่าง ไม่อยากไปชี้แจงอะไรให้มากความ ทุกวันนี้ก็ค้าขายได้ตามปกติ และถ้าหากลูกค้า มาใช้บริการในร้าน แล้วพูดจาแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม

“ถ้าจะเป็นปมเหตุ ให้ลูกค้า รายอื่น ๆ ไม่พอใจ บานปลาย ก็ต้องขอความกรุณาออกจากร้าน ไม่อยากให้ ทะเลาะ วิวาทกัน แค่เห็นภาพ หลายกลุ่มมาใช้บริการ แล้วเช็กอิน ถ่ายภาพ แสดงออกบางอย่าง ในฐานะผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมา จะ 50-60 ปีแล้ว ก็มึน สับสนเหมือนกันว่า บ้านเมืองเราเกิดอะไรขึ้น มาถึงจุดนี้ได้ยังไง”

ด้านผู้ดูแลสถานบันเทิงดัง ในเชียงใหม่ที่ถูกระบุว่าเป็น ขั้วตรงข้าม ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ยืนยันว่า ทุกวันนี้ ลูกค้าก็แน่นร้าน แทบจะจัดคิว ให้ใช้บริการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ลำบากอยู่แล้ว ไม่อยากปวดหัวกับเรื่องพรรค์นี้ อยากจะทำมาค้าขาย มีรายได้ ดูแลครอบครัว ดูแลลูกน้องในร้าน อยู่สุขสบาย ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ แม้มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ไม่ควรไปละเมิดสิทธิบุคคลอื่น

“อยากจะแสดงออกอะไรไป ไม่ต้องขึงป้ายข้อความ เขียนอะไรแบบนั้น แต่ละคนทำหน้าที่ ไม่สร้างปัญหาในสังคม
สิ่งที่ไม่เห็นด้วย หรือไม่สนับสนุน มีช่องทางแสดงออกต่าง ๆ มากมาย อย่าทำให้บรรยากาศเชียงใหม่ กลายเป็นพื้นที่ขัดแย้งทางความคิดเลย แค่นี้ชาวบ้านก็หนักพอแล้ว”

ร่วมแสดงความคิดเห็น