(มีคลิป) ดูนกยูงที่วัดดอยติ อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ใหญ่ที่สุด มิใช่เป็นแค่ทางผ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เส้นทางบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ทั้งขาเข้าและขาออกเมืองลำพูน ซึ่งถือเสมือนประตูเมืองของ จ.ลำพูน จะพบเห็นอนุสาวรีย์ พระรูปครูบาเจ้าศรีวิชัยนั่งสมาธิ ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนนเนินยอดดอยวัดพระธาตุดอยติ หรือวัดพระธาตุจอมกิตติ อันนับได้ว่าเป็นพระรูปครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้ที่เดินทางผ่านจุดนี้ต้องไม่พลาดยกมือพนมไหว้ ขอพรจากพระรูปครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันอันตรายทั้งปวง

วัดพระธาตุดอยติ หรือ วัดพระธาตุจอมกิตติ แผ่นดินปู่ฤาษี ตั้งอยู่ ต.สันป่าสัก อ.เมืองลำพูน มิใช่เป็นเพียงแค่ทางผ่านเข้าสู่ประตูเมืองลำพูน หรือ เส้นทางออกเมืองลำพูน เท่านั้น วัดพระธาตุดอยติเป็นวัดเก่าแก่ ปัจจุบันมีอายุร่วม 1,400 ปี ก่อนสมัยพระนางเจ้าจามเทวี ภายในวัดมีของเก่าแก่มากมาย โดยเฉพาะรูปปั้นปู่ฤาษีตามตำนานกล่าวว่า มีฤๅษี 2 องค์ คือ วาสุเทพฤๅษีและสุกันตฤๅษี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน วันหนึ่งฤๅษีทั้ง 2 องค์ ได้เอาไม้เท้าขีดพื้นดินเป็นรูปหอยวงรี แล้วเนรมิตรให้เป็นเมืองขึ้นตั้งชื่อว่า “นครหริภุญชัย” หลังจากนั้นฤๅษีทั้งสอง จึงได้ไปอัญเชิญพระนางจามเทวี ธิดาของพระเจ้ากรุงละโว้จากเมืองลพบุรี ขึ้นมาครองเมืองลำพูน พระนางจามเทวีได้เสด็จขึ้นมายังนครหริภุญชัย โดยทางเรือ ขึ้นมาตามลำน้ำปิง ใช้เวลากว่า 4 เดือน เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงยังเมืองหริภุญชัย ชาวเมืองได้จัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับเป็นเวลาหลายวัน

วาสุเทพฤๅษี หรือสุเทวะฤๅษี มีอาศรมที่พำนักอยู่ที่ “ม่อนฤๅษี”อยู่บริเวณหลังวัดดอยติ ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ตำนานยังกล่าวอีกว่าที่ม่อนฤๅษี เป็นสถานที่บรรจุพระเครื่องของขลัง ได้แก่ พระเลี่ยม พระสิบสอง เป็นต้น ในระยะหลังมีนักขุดสมบัติลักลอบมาขุดเอาของขลังเหล่านี้ไปจนหมดสิ้น

ปัจจุบันม่อนฤๅษีนี้ หลงเหลืออยู่เพียงรูปปั้นฤๅษี ที่ก่อด้วยอิฐ ประดิษฐานไว้ในศาลา ซึ่งน้อยคนนักจะมีโอกาสได้เข้าไปกราบสักการะ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบต่อมาว่าฤๅษีองค์นี้ คือ “ฤๅษีตาไฟ” ขณะที่บางคนบอกว่านี่ คือ “สุเทวะฤๅษี” ผู้สร้างเมืองหริภุญชัยในอดีตนั่นเอง

จากความเป็นมาฤๅษีสุเทวะนี้เอง ทำให้พระครูบรรพต พัฒนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดดอยติ ร่วมกับศรัทธาประชาชน ได้จัดสร้างพระกิตติและรูปปั้นสุเทวะฤๅษี ขนาดหน้าตัก 5 เมตร ขึ้น เพื่อเป็นที่สักการะบูชาแก่ประชาชนทั่วไป

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 พ.ย.2563 พระครูบรรพต พัฒนกิตติ์ หรือ “พระอาจารย์สมชาย” เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยติ ซึ่งบวชเณรเมื่อปี พ.ศ.2523 ปัจจุบัน อายุ 44 ปีได้เจริญพรต่อผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงนี้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาวบรรยากาศบนวัดพระธาตุดอยติ เย็นร่มรื่นมาก ในช่วงตอนเช้าๆมีหมอกปกคลุมไปทั่ว ตลอดทั้งวันจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ มาแวะเวียนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเซลฟี่จุดแลนมาร์คบนวัดกันอย่างคึกคัก

แต่อย่างไรก็ตามขอฝากไปถึงประชาชนและนักท่องเที่ยว เมื่อขับขี่ยานพาหนะเข้ามาในวัด ให้ระมัดระวังฝูงนกยูง ที่มานอนอาบแดด หรือเดินตามถนน เพราะนกยูงเหล่านี้เชื่องมาก จึงถูกรถยนต์ทับเสียชีวิตไปแล้วนับ 20 ตัว ปัจจุบันคงเหลือนกยูงอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เพียง 11 ตัว เป็นเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 9 ตัว จะมากินอาหารช่วงเช้าและช่วงเย็น

ร่วมแสดงความคิดเห็น