เชียงราย ปิดรับสมัคร นายก อบจ. ส.อบจ. ยอดรวม 5 วัน มีผู้ท้าชิงเก้าอี้ นายก อบจ.3 คน และส.อบจ.158 คน

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการรับสมัครผู้รับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.เชียงราย และส.อบจ.ในวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา กกต.ประจำ จ.เชียงราย ได้สรุปยอดผู้สมัครรวมทั้ง 5 วัน มียอดผู้สมัครรวม 161 คน แบ่งเป็นผู้สมัคร นายก อบจ. 3 คน และผู้สมัคร ส.อบจ.จำนวน 158 คน โดยผู้สมัคร นายก อบจ.ทั้ง 3 คน ได้มายื่นสมัครตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดรับสมัคร และไม่มีผู้สมัครท้าชิงเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ประกอบด้วย

เบอร์ 1 นายมงคลชัย ดวงแสงทอง ผู้สมัครอิสระ อดีต สว.ปี 2557 แต่ยังไม่มีโอกาสวาดฝีไม้ลายมือในสภา เพราะมีการปฏิวัติรัฐประหารเสียก่อน ครั้งนี้ขออาสามาพัฒนาบ้านเกิด นายมงคลชัย เคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ก่อตั้งสมาคมยักษ์ขาว และอีกหลายตำแหน่ง ถือเป็นคนมากความสามารถคนหนึ่ง ในการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ครั้งนี้ นายมงคลชัย ชูนโยบายดูแลกลุ่มคน 5 กลุ่มคือ

  1. กลุ่มเด็กเยาวชนและสตาร์ทอัพ
  2. กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเปราะบาง ผู้ยากไร้และด้อยโอกาส
  3. กลุ่มเกษตรกร
  4. กลุ่มผู้ค้าขาย รับจ้าง รับราชการ
  5. กลุ่มชาติพันธุ์

โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาทั้ง 5 กลุ่ม ตามลำดับความเดือดร้อน ซึ่งหากกลุ่มคนทั้ง 5 กลุ่ม มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สิ่งที่จะตามมาคือภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว มีการเจริญเติบโต อบจ.ในอนาตจะต้องมีความทันสมัย เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง

เบอร์ 2 นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครอิสระ อดีตสมาชิก อบจ.หลายสมัย เป็นประธานสภาวัฒนธรรม อ.เทิง ครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากอดีต ส.อบจ.ชุดเก่ากว่า 20 กว่าชีวิต ให้มารับหน้าที่แม่ทัพชิงเก้าอี้ นายก อบจ. โดยมีนโยบายมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น สร้างความร่วมมือระหว่าง อปท. กล่าวคือ อบจ. เทศบาล และ อบต. จะต้องมีแนวนโยบายการพัฒนาสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ปัญหาไหนที่เกินกำลังของทั้ง 3 อปท. ก็เป็นหน้าที่ของ อบจ.ที่จะเป็นตัวกลางนำเอาปัญหาเหล่านั้น ไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยสิ่งแรกที่ตั้งใจจะทำหากมีโอกาสรับตำแหน่งบริหารคือ การบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอกับการเกษตร และการอุปโภค-บริโภค พร้อมส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนมีรายได้ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ และเยาวชนมีพื้นที่มีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นในการพัฒนาท้องถิ่น

และ เบอร์ 3 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. 2 สมัย ในปี 2550 ขณะดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ในขณะนั้น และได้ปะทะคารมกับ ส.ส.มากประสบการณ์หลายคน ครั้งนี้ขออาสามาพัฒนาเชียงราย ชูนโยบายเด่น 3 ข้อ ได้แก่

  1. ทำให้คนจนหมดไปจาก จเชียงราย โดยการพัฒนาเศรษฐกิจ
  2. ผลักดันเชียงรายเป็นเมืองระดับโลก เพื่อให้นักท่องเที่ยวจะได้รู้จักเชียงราย ในฐานะเมืองน่าเที่ยวมากขึ้น
  3. คืนความอบอุ่นให้ครอบครัว

เมื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดีแล้ว ลูกหลานชาวเชียงราย ก็จะกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ครอบครัวจะอบอุ่น พ่อแม่พี่น้องอยู่กันพร้อมหน้า ผู้สูงอายุมีคนดูแล

หลังจากนี้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อบจ.เชียงราย จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการสมัคร และตรวจสอบว่าผู้สมัครมีสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ จากนั้นจะทำการประกาศรายชื่อผู้สมัคร และหมายเลขภายใน 7 วัน นับแต่วันปิดรับสมัคร และติดประกาศไว้โดยเปิดเผย ณ ที่เลือกตั้ง พร้อมทั้งจัดส่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น