เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ลำปาง นำโดย พ.ต.ท.ปิยะราช ความเพียร รอง ผกก.สส.สภ.วังเหนือ ปฏิบัติราชการ กก.สส.ภ.จว.ลำปาง/หน.ชปส.ภ.จว.ลำปาง,พ.ต.ท.ชยุต ใจลังกา สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่สืบสวนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันทำการจับกุมนายกฤชฐา (นามสกุล) อายุ 31 ปี ที่อยู่ ถนนประตูม้า ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10 เม็ด เงินล่อซื้อ 600 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ ผู้ค้ารายย่อยรายหนึ่ง ได้สารภาพว่าซื้อยาบ้าดังกล่าวมาจากนายจิม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มาแล้วประมาณ 10 ครั้ง จึงได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อ โดยให้ติดต่อกับนายจิม ทราบชื่อภายหลังคือนายกฤชฐา (นามสกุล) สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 10 เม็ด และนัดส่งมอบยาบ้าที่หอพักแห่งหนึ่ง บ้านกลางทุ่ง ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง เมื่อไปถึงสายลับได้มอบเงินล่อซื้อจำนวน 600บาท ให้กับนายจิม และได้รับยาบ้ามาจำนวน 10 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที และได้ตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร
จากนั้นจึงได้ในกฤชฐา วางแผนล่อซื้อยาบ้าจากผู้ค้ารายต่อไป ซึ่งทราบว่าชื่อนายตั้ม จนสามารถจับกุมตัวนายตั้มได้ ทราบชื่อคือ นายธีระพงศ์ (นามสกุล) อายุ 37 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 4 ต.ปงแสนทอง อ.เมืองลำปาง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 30 เม็ด และเงินล่อซื้อ ได้บริเวณหน้าวัดบ้านฟ่อน หมู่ที่ 2 ต.ชมพู จึงนำส่งดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายและครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และทำการขยายผลต่อ
นายธีระพงษ์ หรือตั้ม ได้สารภาพว่า รับยาบ้ามาจากนายแซม ไม่ทราบชื่อนามสกุล ราษฎรบ้านลำปางหลวง ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่จึงให้สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 60 เม็ด ซึ่งนายแซมตกลงจำหน่ายในราคา 2,000 บาท และนัดซื้อขายส่งมอบยาบ้ากันบริเวณหน้าวัดพระธาตุลำปางหลวง หมู่ที่ 8 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา เมื่อไปถึงพบนายแซมได้มารออยู่ก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว นายแซมได้ไหวตัวทันพยายามจะวิ่งหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นจับกุมนายแซมฯ ทราบชื่อจริงภายหลังคือนายวรพัฒน์ มูลคำ ตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 70 เม็ด
สอบถามนายวรพัฒน์ รับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง นอกจากนี้ยังตรวจพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีขาว ระบบเอไอเอส จำนวน 1 เครื่อง ตรวจสอบเบื้องต้นมีรายการที่ติดต่อกับนายธีระพงศ์ ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา ดำเนินคดีต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น