องคมนตรีลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง จังหวัดเชียงใหม่

องคมนตรีลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่               ที่ได้ส่งเสริมการปลูกพืชเขตหนาว และงานหัตถกรรมของชุมชน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านกว่า 15.7 ล้านบาท

วันนี้ (13 พ.ย. 63) พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ได้เดินทาง   ไปติดตามการดำเนินงานของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่           มีพื้นที่   รับผิดชอบ 9 หมู่บ้าน มีประชากรเป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ และเผ่าม้งกว่า 1,385 ครัวเรือน ซึ่งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋งได้ส่งเสริมการปลูกพืชเขตหนาว 14 ชนิด อาทิ อาโวคาโด ,สตรอว์เบอร์รี ,องุ่นไร้เมล็ด ,เสาวรส ,เคพกูสเบอร์รี ,มะเขือเทศเชอร์รี ,มันฝรั่ง ,พริกหวาน ,กาแฟอาราบิกา ฯลฯ ซึ่งเป็นการปลูกพืชแบผสมผสานตามโครงการสวมหมวกให้ดอย สร้างป่าสร้างรายได้ โดยในปีที่ผ่านมามีผลผลิตจำหน่ายผ่านมูลนิธิโครงการหลวงเป็นมูลค่ากว่า 15.7 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ย 6-7 หมื่นบาทต่อปี

นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ยังได้สนับสนุน ส่งเสริม ฟื้นฟูอนุรักษ์งานหัตถกรรมของชุมชน           เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และจำหน่ายให้เป็นแหล่งรายได้เสริม รวมทั้งพัฒนาศักยภาพกลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และส่งเสริมการปลูกป่าชาวบ้านตามแนวพระราชดำริป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง การอนุรักษ์ดินและน้ำด้วยการปลูกหญ้าแฝก รณรงค์การลดการใช้สารเคมีและเฝ้าระวังการปนเปื้อนมลพิษในสิ่งแวดล้อม        และมุ่งสู่การเป็นชุมชนคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

ในการนี้พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ได้เยี่ยมชมการสาธิตการเขียนเทียนบนผ้าใยกัญชง ของกลุ่มแม่บ้านบ้านแม่หยอด และบ้านปางอุ๋งใหม่ พร้อมพบปะพูดคุยกับกลุ่มยุวเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน         และปลูกต้นตองก๊อ หรือต้นค้อ ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำถิ่น รวมทั้งเยี่ยมชมแปลงอาโวคาโดพันธุ์แฮสของเกษตรกร      ในพื้นที่กว่า 40 ไร่ ปลูกต้นอาโวคาโดรวม 1,200 ต้น เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายในปีที่ผ่านมากว่า 900,000 บาท และมอบ “บัตรดินดี” หรือบัตรประจำตัวดินแก่เกษตรกรเจ้าของแปลงเกษตรที่ผ่านการตรวจสุขภาพดิน         จากกรมพัฒนาที่ดินอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น