กกต.เชียงราย ประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์สมัครนายกและสมาชิก อบจ. พบถูกตัดสิทธิ์ 1 ราย เตือน ! ผู้ที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่มาสมัคร โดนโทษ 2 เด้ง ทั้งอาญาแจ้งความเท็จและผิดกฏหมาย กกต.

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 63 กกต.เชียงรายประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สมัครนายกและสมาชิก อบจ.เชียงราย หลังจากมีการรับสมัครไปเมื่อวันที่ 2-6 พ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวน 3 คน และผู้สมัครสมาชิก อบจ. จำนวน 158 คน รวมจำนวนผู้สมัครทั้งหมด 161 คน

และในช่วงเย็นวันนี้ กกต.เชียงรายรับรองรายชื่อผู้สมัคร พบว่าผู้สมัครส่วนใหญ่มีคุณสมบัติครบ และผ่านการรับรองจาก กกต. มีเพียงนายวันชนะ ทองทั่ว ผู้สมัครสมาชิก อบจ.ประจำอำเภอเทิง เขต 2 สมัครในนามคณะก้าวหน้าโดยทางกกต.เชียงรายระบุว่า เป็นผู้ขาดคุณสมบัติเพราะไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุด

นายวันชนะ ทองทั่ว เป็นบุตรชายของนายอุทัย ทองทั่ว นายก อบต.ตับเต่า อ.เทิง เปิดตัวเป็นผู้สมัครสมาชิก อบจ.  ในนามอิสระ ก่อนที่จะไปร่วมกับคณะก้าวหน้าก่อนหน้าการเปิดรับสมัครเพียงไม่กี่วัน ก่อนหน้าที่จะโดน กกต.ประกาศตัดสิทธิ์นายวันชนะเป็นผู้สมัครที่ได้รับความนิยมสูงในพื้นที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง และใกล้เคียง แต่เมื่อโดนตัดสิทธิ์เช่นนี้ ทางผู้สมัครก็จะไปขอยื่นทบทวนกับ กกต.จังหวัดต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายอุทัย ทองทั่ว บิดาของนายวันชนะที่โดนตัดสิทธิ์ในครั้งนี้ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายของตนไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส. เมื่อครั้งที่ผ่านมาจริง แต่ได้ไปยื่นแสดงเหตุผลที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ์กับทาง กกต.จังหวัด หลังจากผ่านวันเลือกตั้งไปแล้ว ตอนนี้ทางเราจะหาหลักฐาน พื่อนำไปยื่นอุทธรณ์กับทาง กกต.ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

ด้านนายสุคนธ์ เรือนสอน ผอ.กกต.เชียงราย เผยว่า บุคคลที่ไม่มีชื่อเป็นผู้รับสมัครฯ สามารถยื่นคำร้องกับ กกต. ภายใน 3 วัน เพื่อให้ทาง กกต.พิจารณาวินิจฉัยโดยเร็ว (มาตรา 55) และกรณีขอยื่นขอตรวจสอบผู้มีสิทธิ์เป็นผู้สมัครก็สามารถยื่นคำร้องได้ภายใน 3 วัน (มาตรา 56) ทาง กกต.จะต้องวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน หรือก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน ส่วนบุคคลใดที่ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น โดยมีกำหนดเวลา 20 ปี ตามมาตรา 120

“อยากจะเน้นย้ำไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสมาชิก อบจ.และนายก อบจ. ว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นตาม พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มีข้อควรระวังหลายขัอ เช่น มาตรา 34 ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ    ไม่สามารถช่วยผู้สมัครฯหาเสียงได้ คนที่ไปช่วยหาเสียงต้องจะแจ้งชื่อกับ กกต. และต้องมีค่าตอบแทนให้ด้วย      รวมไปถึงรถที่นำไปใช้หาเสียงก็ต้องแจ้ง กกต.ด้วย มาตรา 65 ห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้ง สัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ ห้ามจัดมหรสพ งานเลี้ยง ถ้ามีคนร้องเรียนจะถูกดำเนินการสอบสวน ห้ามแจกจ่ายเอกสารโดยการวางไว้เป็นจุด    ต้องแจกจ่ายให้กับมือ ห้ามใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว เสียดสี ที่สำคัญคือ ห้ามนำสถาบันมาใช้ในการหาเสียง” ผอ.กกต.เชียงรายกล่าว

ในการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่มีหน้าที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ถ้าไม่ไปใช้สิทธิ์ จะโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 2 ปี ในช่วงระยะเวลาที่โดนตัดสิทธิ์จะไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้ง สส. สว. กำนัน ผญบ. รวมไปถึงการยื่นถอดถอนบุคคลไดๆ ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ที่ผ่านมาถ้าไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ก็จะโดนตัดสิทธิ์ไม่มีกำหนด         ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่หากไปเลือกตั้ง สิทธิ์ที่โดนตัดในครั้งก่อนก็จะเป็นโมฆะ แต่ตาม พรบ.ใหม่ ถ้าไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งจะถูกตัดสิทธิ์ 2 ปี และถ้ามีการเลือกตั้งอีก แล้วเราไปใช้สิทธิ์ครั้งหลังสุด สิทธิ์ที่โดนตัดในครั้งก่อนก็จะยังคงอยู่ไม่ถือเป็นโมฆะ แต่ถ้าเราไม่ไปใช้สิทธิ์อีก เราก็จะโดนตัดสิทธิ์นับเอาครั้งล่าสุดไปจนครบ 2 ปี สิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วไปควรจะรู้ เพื่อจะได้เตรียมตัวไปใช้สิทธฺเลือกตั้งตามวิถีของประชาธิปไตยต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น