ผอ.สำนักบริหารพื้นที้อนุรักษ์ที่ 13 ลำปาง เผยพร้อมรับพังทับเสลาลูกช้างป่าห้วยขาแข้งเข้าดูแลในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง หลังจากพลัดหลงฝูงนานเกือบครึ่งปี

วันที่ 13 พ.ย.2563 นายปิยะ หนูนิล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (ลำปาง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า       และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า หลังจากที่นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้อนุมัติให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เคลื่อนย้ายลูกช้างป่าพลัดหลงจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี มายังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อดูแลสวัสดิภาพให้กับลูกช้างป่า ได้เรียนรู้ ซึมซับพฤติกรรมการดำรงชีวิตตามธรรมชาติของช้างป่า จนกว่าจะมีความพร้อมในการดำรงชีวิตได้เองในธรรมชาติ จากนั้นจะได้หาหนทางปล่อยคืนป่า เพื่อให้ลูกช้างได้อยู่ตามธรรมชาติ

นายปิยะ กล่าวว่า ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ให้สำหรับลูกช้างพังทับเสลาเรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการเตรียมการมาก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ พร้อมกับเตรียม ช้างแม่รับไว้ให้เลือกถึง 5 ตัวด้วยกัน ได้แก่ พังตุ๊กตา พังดอกรัก พังดุ พังวาเลนไทน์ และพังทีน่า ซึ่งการเดินทางจะเคลื่อนย้ายลูกช้างด้วยรถบรรทุก และจะเดินทางช่วงกลางคืนของวันที่ 13 พ.ย.63 โดยมีเจ้าหน้าที่ส่วนสารสนเทศด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า      สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง  พร้อมด้วยทีมงานนายสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ติดตามมาด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่     ก็มั่นใจว่ามีความปลอดภัยสำหรับลูกช้าง เพราะได้มีการซักซ้อมให้ลูกช้างขึ้นรถ ทำความคุ้นเคยมาก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง คาดว่าจะเดินทางมาถึงในช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ย. 63 ซึ่งได้ให้  เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่เข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากไม่อยากให้ลูกช้างตื่นกับคนเยอะและสถานที่แห่งใหม่
พร้อมกันนี้ในพื้นที่ จ.ลำปาง ได้มีการจัดเตรียมสัตวแพทย์ ซึ่งเป็นทีมจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ ฯ อ.อ.ป. ร่วมดูแลสุขภาพของลูกช้างตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย จึงขอให้มั่นใจได้ว่าลูกช้างจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงนี้ต้องให้ลูกช้างได้มีการปรับพฤติกรรมและได้เรียนรู้คุ้นเคยกับแม่รับก่อน คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยประเมินว่าจะสามารถปล่อยลูกช้างคืนสู่ป่าได้เมื่อไร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (ลำปาง) กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น