จังหวัดน่าน ประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายแด่ พระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง”

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 09.00 น. ที่ โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
เนื่องจากวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนหลวง จังหวัดน่าน น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงคิดค้นฝนเทียม เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยในพื้นที่ประสบภัยแล้ง โดย        นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็น ประธานพิธี นำคณะหัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” เผยแพร่     พระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โครงการพระราชดำริฝนหลวง เป็นโครงการที่ก่อกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร ที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากความผันแปรและคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝนเริ่มต้นล่าช้าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติ หรือฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงฤดูฝน จากพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง         ทรงเห็นว่าภาวะแห้งแล้งได้ทวีความถี่และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นตามลำดับ เพราะนอกจากความผันแปรและคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติแล้ว การตัดไม้ทำลายป่ายังเป็นสาเหตุทำให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรและยังส่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

ประโยชน์จากโครงการฝนหลวง ที่เกิดจากพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันยาวไกลของในหลวงรัชกาลที่ 9   ที่ทรงมีพระราชดำริโครงการฝนหลวง เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 นับตั้งแต่นั้น ทรงทุ่มเทคิดค้นวิจัยและพัฒนาการทำ “ฝนหลวง” จนประสบความสำเร็จ ฉะนั้น การขานนามพระองค์ว่า “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ถือเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาใดเปรียบ พระองค์จะสถิตอยู่ในหัวใจพสกนิกรชาวไทยตลอดไป

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น