(มีคลิป) หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3  หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เปิดกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  มอบผ้าห่ม กันหนาวให้ราษฎร ในพื้นที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนบ้านน้ำพุร้อน ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน พันเอก รฐนนท รัตนโสภณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3  หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นประธานกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว โดยมอบผ้าห่มกันหนาวให้เด็กนักเรียน และราษฎร์บ้านน้ำพุร้อน  จำนวน 160  หลังคาเรือน รวม 280 คน และมอบให้กับคณะครูและ นักเรียนและโรงเรียน จำนวน 79 คน รวมทั้งหมด  359 คน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว ทั้งนี้เพื่อน้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์

จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่ปกคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดน่านทำให้มีหมอกหนาในตอนเช้า โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาและยอดดอย ตอนกลางคืนบนยอดดอย อุณหภูมิลดลงต่ำสุดวัดได้ 14 – 20 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณพื้นราบ ยังคงมีอุณหภูมิต่ำเช่นกันอุณหภูมิ จะอยู่ที่ 18 – 24 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ราษฎรในพื้นที่สูงต้องประสบภัยหนาว บางพื้นที่อาศัยความอบอุ่นของแสงแดด และการก่อกองไฟผิง เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น เนื่องจากราษฎร์ ยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว และราษฎรส่วนมากมีฐานะยากจน เพื่อเป็นการบรรเทาความหนาวเย็น  เนื่องจากอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราษฎร์เป็นชาวไทยภูเขา เผ่าเมี่ยน มีอาชีพทำการเกษตร ทำไร่และทำสวน ส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากและมีฐานะที่ยากจน

ทางหน่วยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยได้จัดหาผ้าห่มกันหนาว จากกำลังพลและครอบครัวในหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 และเพื่อนๆ ญาติมิตร ที่ได้สมทบทุนร่วมบริจาค เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ราษฎร์ ที่ประสบอุทกภัยหนาว
รวมทั้งมอบ  อุปกรณ์การเรียนการสอน  มอบเครื่องปั่นไฟ บริการตัดผม  ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับ เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำพุร้อน และประชาชนที่เดินทางมารับแจกผ้าห่มเครื่องกันหนาว

นอกจากนี้ ทาง พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้จัดชุดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มาทำการตรวจรักษา ให้ประชาชน มอบยาสามัญประจำบ้าน อีกทั้งมอบแว่นตาผู้ ให้แก่สูงอายุ ที่มีปัญหาในด้านสายตา ได้มีการมองเห็นได้ชัดขึ้น   ซึ่งเป็นกิจกรรม   อันเป็นสาธารณประโยชน์ และที่สำคัญ เป็นการสร้างจิตสำนึก ให้ประชาชนทุกคนทุกหมู่เหล่าดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามที่เกิดภัยพิบัติต่างๆทั้งที่เกิดจากธรรมชาติ  และที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ  อันที่จะส่งผลกระทบ ต่อประชาชนในพื้นที่โดยรวมอีกด้วย

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น