กรมอนามัย เผย ‘น้ำดื่ม’ ดื่มให้เหมาะ พอเพียง ดีต่อสุขภาพ

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยการมีสุขภาพดีด้วยน้ำดื่ม นับเป็นวิธีการที่ประหยัดที่สุด แต่ต้องดื่มในปริมาณ  ที่พอเหมาะ พอเพียง ดีต่อสุขภาพ ช่วยทำความสะอาด ชำระล้างอวัยวะภายในของร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร            ขับถ่ายสะดวก ท้องไม่ผูก สุขภาพไตดี

​นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงคุณค่า ของน้ำดื่มที่ส่งผล ดีต่อสุขภาพ ว่าน้ำสะอาดเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่ประชาชนมักจะนึกไม่ถึง ซึ่งการดื่มน้ำ ที่สะอาด และเพียงพอ จะทำให้ระบบต่าง ๆ ได้รับการกระตุ้นและพร้อมที่จะทำงาน ส่งผลให้โลหิตไม่ข้น การไหลเวียนเป็นไปได้ง่าย หัวใจไม่ทำงานหนัก ไม่เมื่อยล้า ไม่เหนื่อยง่าย หัวใจเป็นปกติ ลมหายใจสะอาด สดชื่น นัยน์ตาสดใสเป็นประกาย  มีน้ำหล่อเลี้ยง ไม่มีเส้นเลือดแดงกล่ำ ไม่แสบตา ลดปัญหาร้อนใน ปากและลิ้นสะอาด ผิวกาย ใบหน้าชุ่มชื่น การขับถ่ายของเสียสะดวก ท้องไม่ผูก ปัสสาวะใสสะอาด ไม่ปวดหลังและบั้นเอว สุขภาพไตดี รูขุมขนมีเหงื่อ ชุ่มเย็นเสมอ

“ทั้งนี้ การเลือก และการดื่มน้ำในชีวิตประจำวันควรเลือกน้ำดื่มที่มีคุณภาพสะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่เป็นน้ำที่ร้อนมากหรือเย็นจัด ถ้าเป็นน้ำอุ่น ๆ เล็กน้อย ควรดื่มใน ตอนเช้าจะทำให้การขับถ่าย  ดีขึ้น ลำไส้สะอาด ในวันหนึ่ง ๆ ควรดื่มน้ำประมาณวันละ 6-8 แก้ว โดยควร งดดื่มน้ำในปริมาณมากประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนและหลังกินอาหาร และไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำครั้งละ 2-3 แก้วติดต่อกันทันที เพราะจะทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ซึ่งระยะเวลาที่ควรดื่มน้ำในหนึ่งวัน อาจเปลี่ยนแปลงได้บ้างเล็กน้อยตามความสะดวก                     เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้ว หรือ 240 ซีซี ตอนสาย ช่วงเวลาประมาณ 09.00-10.00 น. ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว ตอนบ่าย ช่วงเวลาประมาณ 13.00-14.00 น. ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว ตอนค่ำ ช่วงเวลาประมาณ 19.00–20.00 น.              ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว และก่อนเข้านอนดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบายดีขึ้น” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น