ตำรวจ บก.ปทส. และจนท.ป่าไม้ จับมอดไม้แอบตัดไม้ในป่า อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดย พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส., พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณคีรี สว.กก.4 บก.ปทส.และ พ.ต.อ.อภิชาติ รักพงษ์ ผกก.ตชด.33 พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ รอง ผกก.ตชด.33, และ พ.ต.ท.สามารถ บุญตันสา รอง ผกก.ป.สภ.แม่วาง รรท.ผกก.อมก๋อย, พ.ต.ท.สันติภาพ โชติพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.อมก๋อย พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม. 22 (ปางโอ้งโม้ง) นำโดย นายกิ่ง แก้วกัน และนายลิขิต ธนาธิติวุฒิ

โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ได้ควบคุมตัวนายบุญจันทร์ ศิริมลนุกูล ที่อยู่ หมู่ที่ 3 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ เจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์ของกลางซึ่งได้ใช้กระทำความผิดพบอยู่บริเวณที่เกิดเหตุในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย พร้อมของกลางมี ไม้พลวงแปรรูป จำนวน 30 แผ่น ปริมาตร 0.31 ลบ.ม. คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 6,200 บาท (หกพันสองร้อยบาทถ้วน) พร้อมอุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ในการกระทำความผิด รถยนต์ส่วนบุคคล (กระบะบรรทุก) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอกซ์ สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ จำนวน 1 คัน ประเมินราคาเป็นเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)

 

 

โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดต่อบทบัญญัติพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 ฐาน “ร่วมกันทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และ มาตรา 48 ประกอบมาตรา 73 ฐาน “ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต”

 

 

การจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีผู้แอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่ ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณคีรี สว.กก.4 บก.ปทส. ผู้ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ราชการในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 5 ให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด,ลำพูน ดำเนินการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 ได้ร่วมกันออกตรวจสืบสวนข้อเท็จจริงตามสั่งการ ซึ่งได้ออกตรวจลาดตระเวนในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่บ้านทุ่งจำเริญ หมู่ที่ 3 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ ตรวจพบต้นไม้ถูกตัดโค่น และพบร่องรอยการแปรรูปไม้ด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ในป่าเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบไม่พบบุคคล สัตว์เลี้ยง พาหนะ หรืออุปกรณ์การแปรรูปไม้ใด ๆ อยู่บริเวณดังกล่าว พบตอไม้ กิ่งไม้ ปลายไม้ และเศษไม้หลงเหลืออยู่ในป่าที่เกิดเหตุ ตรวจสอบไม่พบไม้แปรรูปหลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าผู้กระทำความผิดได้ทำการชักลากไม้ขนเคลื่อนย้ายออกไปจากป่าที่เกิดเหตุแล้ว ในป่าบริเวณที่ตรวจพบตอไม้ และร่องรอยการแปรรูปไม้ดังกล่าวมีถนนซึ่งเป็นเส้นทางลำลองที่มีอยู่ในป่าเป็นจำนวนมาก หลายเส้นทาง น่าเชื่อว่าผู้กระทำความผิดทราบความเคลื่อนไหวการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่จึงได้หลบหนีไปก่อน

 

ต่อมาช่วงค่ำของวันนี้ 30 พ.ย.เจ้าหน้าที่ดังกล่าวข้างต้นได้สนธิกำลังกัน ออกตรวจลาดตระเวนโดยใช้รถยนต์ของทางราชการตำรวจ บก.ปทส. ตรวจลาดตระเวนไปยังพื้นที่ป่าเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้งอีกบริเวณเส้นทางลำลองในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่บ้านทุ่งจำเริญ หมู่ที่ 3 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ พบมีรถยนต์กระบะบรรทุก จำนวน 1 คัน จอดอยู่บริเวณถนนลำลองที่มีอยู่เดิมในป่าที่เกิดเหตุ สังเกตพบมีไม้แปรรูปบรรทุกอยู่ที่กระบะรถ ลักษณะไม้แปรรูปวางพาดบนคอกเหล็กเสริมกระบะบรรทุก ไม่พบบุคคลใดอยู่ในรถที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มองเห็นมีรถกระบะบรรทุกอีกคันหนึ่งจอดอยู่บริเวณใกล้ๆ กับที่ตรวจพบรถยนต์คันแรก สังเกตพบมีไม้แปรรูปบรรทุกอยู่ที่กระบะรถ ลักษณะไม้แปรรูปวางพาดบนคอกเหล็กเสริมกระบะบรรทุก พบชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน อยู่บริเวณท้ายรถ ปรากฏว่าเมื่อชายกลุ่มดังกล่าวมองเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่วิ่งไล่กวดติดตามจับกุมตัวได้ จำนวน 2 คน

ผู้กระทำผิดทั้ง 2 คน ทราบชื่อในเวลาต่อมาดังนี้ 1.นายผวัน (สงวนนานสกุล) อายุ 41 ปี บ้าน หมู่ 8 และ 2.นายชาละวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี บ้าน หมู่ 8 ทั้งสองอยู่ ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ สอบถามนายผวัน  กับนายชาละวัน ให้การว่า ตนกับพวก ได้ร่วมกันมาชักลากไม้ออกจากป่าที่เกิดเหตุ ไม้แปรรูปทั้งหมดเป็นของนายจะมู ราษฎรบ้านยองกือ หมู่ 8 ต.อมก๋อย ซึ่งนายจะมู ได้ว่าจ้างให้ชักลาก และขนไม้แปรรูปดังกล่าวไปส่งที่บ้านของนายจะมู จึงนำรถยนต์มาบรรทุกไม้ดังกล่าวออกจากป่าที่เกิดเหตุ โดยตกลงทำสัญญาจ้างทางวาจาเป็นเงินจำนวน 1,500 บาท จนกระทั้งมาถูกจับ ส่วนผู้กระทำความผิดที่เหลือเจ้าหน้าที่จะดำเนินการควบคุมตัวมารับทราบขอกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนต้นไม้ที่ถูกตัด มีต้นไม้ชนิดสนเขา ไม้เหียง ไม้พลวง

ร่วมแสดงความคิดเห็น