มั่นใจ “ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกล COVID 19” และงานมอบป้ายมาตรฐาน SHA

4 ธันวาคม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์ “ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกล COVID 19” คุมเข้มตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการคัดกรอง สวมหน้ากาก และล้างมือเป็นประจำ พร้อมมอบป้ายตราสัญลักษณ์ SHA ให้กับผู้ประกอบการโรงแรม สถานประกอบการ ผู้ขับขี่ Grab Taxi และร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่

​วันนี้ (4 ธันวาคม 2563) นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้า และธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ “ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกล COVID 19 พร้อมทั้งมอบป้ายมาตรฐาน SHA ให้กับผู้ประกอบการโรงแรม สถานประกอบการ ผู้ขับขี่ Grab Taxi และร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ ณ ข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่

นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ซึ่งจากเดิมในช่วงปลายปีคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันเป็นจำนวนมากนั้น แต่จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตามมาได้ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย(นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย) จึงมีความห่วงใยโดยขอให้ประชาชนและทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการ ของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ที่คุมเข้มตั้งแต่การคัดกรอง สวมหน้ากาก และล้างมือ ดังนั้น กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์ “ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกล COVID 19” ขึ้น เพื่อเน้นย้ำให้

ประชาชนและผู้ประกอบกิจการต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงพื้นที่ภาคเหนือ ปฏิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขและความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่ ต้องให้ความร่วมมือด้วยการสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างอยู่เสมอตามมาตรการหลักสำคัญด้านสาธารณสุขเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรค โควิด-19 ผลการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 23 ถึง 27 พฤศจิกายน 2563 พบว่า ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่มีพฤติกรรมสวมหน้ากากป้องกันร้อยละ 89.61 ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยสำรวจในช่วงวันที่9- 13 พฤศจิกายน 2563 ร้อยละ 5.22

สถานที่สาธารณะที่ใส่หน้ากากมากที่สุดคือห้างสรรพสินค้าร้อยละ 81.36 ร้านสะดวกซื้อร้อยละ 78.42 และตลาดร้อยละ 78.26 ส่วนสถานที่ที่ใส่หน้ากากน้อยที่สุดคือ สวนสาธารณะ สนามกีฬาร้อยละ 42.86 รองลงมาคือวัดโบสถ์โบราณสถาณร้อยละ 48.51 ฟิตเนสโรงยิมร้อยละ 50 และสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้อยละ 52.94 สำหรับจังหวัดเชียงรายประชาชนมีพฤติกรรมการสวมหน้ากากป้องกันร้อยละ 85.71 เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 5. 20 สถานที่สาธารณะที่ใส่หน้ากากมากที่สุดคือโรงพยาบาลร้อยละ 87.88 ร้านสะดวกซื้อร้อยละ 84.38 และตลาด ร้อยละ 84 สถานที่ที่ใส่หน้ากากน้อยที่สุดคือฟิตเนส โรงยิมร้อยละ 16.67 สถานบันเทิงผับบาร์ ร้อยละ 33.33 และวัดโบสถ์โบราณสถาณร้อยละ 50 การสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้านจึงเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญที่ต้องปฏิบัติกันต่อไป

ทั้งนี้ในส่วนของผู้ประกันกิจการต่างๆนั้นยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพทยระบาดของโรค โควิด-19 ละลอก 2 อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่มีระบบการคัดกรองก่อนเข้ามาใช้บริการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และจัดให้อุปกรณ์ป้องกันตนเองที่จำเป็นสำหรับพนักงาน รวมทั้งจัดให้มีที่ล้างมือ

ด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือไว้บริการอย่างเพียงพอ เช่นบริเวณทางเข้าออกหน้าลิฟท์ จุดประชาสัมพันธ์ จุดชำระเงิ น และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร บริเวณทางเข้าออกบันไดเลื่อนภายในลิฟท์ เพื่อลดความแออัด พร้อมทั้งให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านทางแพลตฟอร์มไทยชนะ www.ไทยชนะ.com ก่อนเข้ารับบริการในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อบันทึกข้อมูลการเข้าออกช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ โควิด-19 รองธิบดีกรมอนามัยกล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น