จับได้เกือบทุกวัน! แม่สอด วางกำลังเข้มในจุดล่อแหลมริมแม่น้ำเมย สกัดกั้นลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด – 19 เพิ่มขึ้น

หลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวน 2 ราย เป็นนักธุรกิจชาวเมียนมา อายุ 43 ปี และชาวไทยพลัดถิ่น อายุ 70 ปี ที่ญาติให้ข้อมูลแบบปกปิดประวัติการลักลอบข้ามชายแดน จนส่งผลทำให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลแม่สอด ถูกสั่งกักตัวตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด – 19  จำนวน 13 คน และเจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยกู้ชีพกู้ภัย ต้องเพิ่มการป้องกันตนเองในระหว่างรับส่งผู้ป่วยทุกรายทั้งคนไทยและคนต่างด้าวอย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกัน วันที่ 7 ธันวาคม 2563 ที่โรงเรียนในพื้นที่ ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย – เมียนมา และตรวจพบผู้ป่วยมีบ้านพักอาศัยในพื้นที่ คือ โรงเรียนบ้านแม่ตาวริมเมย โรงเรียนบ้านท่าอาจ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสายลวด ได้หยุดทำการเรียนการสอนชั่วคราวเป็นเวลา 1 วัน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคภายในโรงเรียน สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครอง-นักเรียนและคณะครูผู้สอน ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่มีการป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกคนแบบยกตำบล

ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันสกัดการลักลอบข้ามแนวชายแดนผิดกฎหมาย ตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้า ของวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 และกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 ร่วมกันวางกำลังในจุดล่อแหลมริมแม่น้ำเมยท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด เพื่อเฝ้าระวังป้องกันกลุ่มคนต่างด้าว รวมถึงคนไทยที่อาจจะลักลอบข้ามแนวชายแดนจากเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้ามาในอำเภอแม่สอด หรือพื้นที่หัวเมืองชั้นในอย่างเข้มงวด

ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ลักลอบหลบหนีข้ามแนวชายแดนไทย – เมียนมาได้เกือบทุกวัน และทุกรายจะถูกส่งตัวไปตรวจโรคติดเชื้อไวรัส – กักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐพร้อมดำเนินคดีทุกราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น