คณะกรรมการจัดการแข่งขันเตรียมจัดงาน เมืองไทยเชียงใหม่ มาราธอน ครั้งที่ 15 วันที่ 20 ธันวาคม 2563

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง เชียงใหม่ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน เมืองไทยเชียงใหม่ มาราธอน ครั้งที่ 15 จัดให้มีการแถลงข่าว สื่อมวลชน โดยมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายกสมาคมศิษย์เก่า ร.ร. เมตตาศึกษา นายวิเชียร์ เชิดชูตระกูลทอง พิตราภรณ์ บุญรัตนพันธ์ รองกรรมการอาวุโส บ.เมืองไทย จำกัดมหาชน นายสายัณห์ สมดุลยาวาทย์ กรรมการผู้จัดการ บ.จ๊อกแอนด์จอย น.ส.ภัคนันท์ วินิจชัย ททท. เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว การแข่งขันจะมีในวันที่ 20 ธค. 63 ณ ข่างประตูท่าแพ อ.เมือง เชียงใหม่

วัตถุประสงค์ในการจัดงาน เพื่อเป็นกิจกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลัง Covid-19 โดยใช้ การแข่งขันกีฬามวลชนเป็นสื่อ ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อเป็นกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Thailand Sports Tourism)เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสนับสนุนการพัฒนาเมืองเชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนคนไทย ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ด้วยการ เดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับหน่วยงานสาธารณกุศล ด้านการศึกษา-สังคม และสิ่งแวดล้อม ในจังหวัดเชียงใหม่


ประเภทการแข่งขัน MARATHON 42.195 Km. ปล่อยตัว 03.00 น. Cut Off 7 ชั่วโมง
รับสมัคร มาราธอนหน้าเก่า 1,000 คน, มาราธอนหน้าใหม่ 500 คนรวม 1,500 คน แบ่งกลุ่มอายุการแข่งขัน ดังนี้ ชาย และ หญิง อายุ 18-39 ปี อายุ 40-49 ปี อายุ 50 ปีขึ้นไป ไปมาราธอนหน้าใหม่ ชาย มาราธอนหน้าใหม่ หญิง มาราธอนหน้าใหม่ หมายถึงนักวิ่งชาวไทยที่ยังไม่เคยลงสนามมาราธอน และเทรล 42.195 กม. แม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตนี้ นับถึง 20 ธันวาคม 2563 เวลา Cutoff เริ่มนับตั้งแต่นักวิ่งคนสุดท้าย ของ Wave สุดท้าย ในแต่ละระยะทาง ออกจากจุดสตาร์ท

ในประเภท HALF MARATHON 21.1 Km. ปล่อยตัว 04.00 น. Cut Off 3.30 ชั่วโมง
รับสมัคร 1,500 คน แบ่งกลุ่มอายุการแข่งขันดังนี้ ชาย และ หญิง อายุ 18-29 ปี
อายุ 30-39 ปี  อายุ 40-49 ปี อายุ 50 ปีขึ้น เวลา Cutoff เริ่มนับตั้งแต่นักวิ่งคนสุดท้าย ของ Wave สุดท้าย ในแต่ละระยะทาง ออกจากจุดสตาร์ท

ประเภท MINI MARATHON 10 Km. ปล่อยตัว 05.00 น. Cut Off 1.30 ชั่วโมง
รับสมัคร 2,000 คน แบ่งกลุ่มอายุการแข่งขันดังนี้ ชาย และ หญิง อายุ 15-29 ปี
อายุ 30-39 ปี ออายุ 40-49 ปี  อายุ 50 ปีขึ้นไป เวลา Cutoff เริ่มนับตั้งแต่นักวิ่งคนสุดท้าย ของ Wave สุดท้าย ในแต่ละระยะทาง ออกจากจุดสตาร์ท

กีฬามวลชน เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่ผู้ที่มีวินัย ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายฝึกซ้อมร่างกายเป็นประจำ ควบคุมการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ มีการพักผ่อนที่ดี เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง โดยกว่า 95% ที่เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อชัยชนะ แต่จะแข่งขันกับตัวเอง เป็นกีฬาที่ไม่ใช้อุปกรณ์ร่วมกัน ไม่มีการปะทะ เป็นกีฬาที่น่าเบื่อสำหรับคนดูจึงไม่มีคนดู ไม่มีการพนัน มีแต่การกุศล ยิ่งใช้เวลาในการแข่งขันนาน ยิ่งทิ้งระยะห่างทางสังคม Social Distancing ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ COVID-19 ระบาดเข้ามาในประเทศไทย จากการสืบสวนโรคของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั้งหมด ถึงวันนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อจากสนามกีฬามวลชน เดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพ ดังนั้น หลังจากการผ่อนปรนการจัดกิจกรรมกีฬามวลชน เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้มาตรการความปลอดภัย Running New Normal

กว่า 14 ปีที่ผ่านมา สนามวิ่งเชียงใหม่มาราธอน เป็นกิจกรรมกีฬามวลชนเพื่อสุขภาพที่ทำให้นักวิ่งซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมมากมายเป็นอันดับต้น ๆ ของสนามมาราธอนทั่วประเทศ แต่สำหรับการจัดกิจกรรมในปีนี้ ภายในสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับประชาชน ทุกประเทศ ทั่วโลก เพื่อความปลอดภัยและปลอดโรค โควิด 19 คณะกรรมการจัดงานจึงต้องลดจำนวนผู้สมัครลง ลดการแข่งขันในบางประเภท ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น “ไทยวิ่งไทย ไทยเที่ยวไทย” เพื่อเป็นกิจกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษากิจกรรมวิ่งมาราธอนประเพณี เชียงใหม่มาราธอน ให้คงอยู่ สืบต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น