กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนทำความสะอาดบ้าน โดยยึดหลัก 3 ส 1 ล ได้แก่ สะสาง สร้าง สะอาด และลด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากรายงานของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในวันที่ 10 – 11 ธันวาคม 2563 อาจพบฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ กลาง กรุงเทพฯ ใต้ และกรุงธนบุรีฝั่งใต้ ส่วนจังหวัดปริมณฑล จะมีเพียงจังหวัดสมุทรปราการ ที่อาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองสูงขึ้น ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวจึงควรตรวจเช็คค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน และสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแล เป็นพิเศษ คือกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กเล็กเนื่องจากเด็กมีความอ่อนแอและภูมิต้านทานต่ำ ปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ อัตราการหายใจถี่ และมีผิวหนังบอบบางกว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ และเด็กยังมีพฤติกรรมเคลื่อนไหวมากกว่าผู้ใหญ่ เช่น การวิ่งเล่น การกระโดด การปีนป่าย ในสนามหรือนอกอาคาร ทำให้เด็กมีการหายใจ รับมลพิษมากขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของปอดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางระบบประสาทและความสามารถทางปัญญาของเด็ก ส่วนผู้สูงอายุ กลไกการป้องกันระบบทางเดินหายใจจะลดลงตามอายุและอาจมีโรคประจำตัว ทำให้ไวต่อการเป็นโรคหรือติดเชื้อระบบทางเดินหายใจมากขึ้น ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง จึงต้องติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศด้วยการดูค่า PM 2.5 หรือค่า AQI ได้ที่เว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th หรือแอพพลิเคชั่น “Air4thai” ของกรมควบคุมมลพิษ หรือเฟซบุ๊กเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM 2.5” ของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้สังเกตที่สีเป็นหลักหากพบค่าตั้งแต่ระดับสีเหลืองขึ้นไป ต้องให้เด็กทำกิจกรรมนอกอาคารให้น้อยลง และป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัย

“ทั้งนี้ ในช่วงวันหยุดยาวนี้ ประชาชนสามารถช่วยกันลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการทำความสะอาดภายในบ้านของตนเอง ตามหลัก 3 ส 1 ล ได้แก่ 1) ส.สะสาง ควรคัดแยกสิ่งของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้แล้วออกไป เพราะจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เช่น อุปกรณ์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ หนังสือพิมพ์เก่า นิตยสาร วารสาร เป็นต้น โดยเฉพาะห้องที่อยู่เป็นประจำควรมีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของให้น้อยชิ้นที่สุด เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง 2) ส.สะอาด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน โดยเช็ดถูทำความสะอาดพื้นและตามซอกมุมต่าง ๆ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่น รวมทั้งล้างอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศและมุ้งลวด ให้สะอาดอยู่เสมอ และสำหรับเครื่องนอน ควรซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนเป็นประจำ รวมทั้งผ้าม่านภายในห้องด้วย 3) ส.สร้าง ประชาชนควรสร้างสุขนิสัย ในการดูแลและทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นละอองสูง โดยเพิ่มความถี่ ในการทำความสะอาดบ้านให้มากขึ้น รวมถึงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี บริเวณรอบบ้าน โดยปลูกต้นไม้ที่มีลักษณะ ใบหนา หยาบ มีขน เพื่อช่วยดักฝุ่น เช่น ทองอุไร ตะขบฝรั่ง จามจุรี เป็นต้น หรือการทำละอองน้ำฝอย เพื่อช่วยลดฝุ่นที่ลอยจากพื้น และ 1 ล.ลด ลดหรือเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่ม เช่น การจุดธูปเทียน การเผาขยะ การจุดเตาถ่าน และการสูบบุหรี่ รวมทั้งควรมีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ไม่ก่อให้เกิดควันดำ เป็นต้น นอกจากนี้ ขณะทำความสะอาดควรสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากทุกครั้ง เพื่อช่วยป้องกันการสูดฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายได้ ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น