(มีคลิป) เอือมระอา 2 ผัวเมีย ส่งเสียงดังกลางดึก สร้างความเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน

จากกรณีคู่สามีภรรยาที่บ้านป่าไม้แดง ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกเพื่อนบ้านและชาวบ้านแฉพฤติกรรมว่าเกือบทุกคืนต่อเนื่องยาวนานเป็นปีแล้วต่างได้รับความเดือดร้อนจากการที่ทั้งคู่ชอบก่อรำคาญด้วยการกินเหล้าโวยวายเสียงดัง พอเพื่อนบ้านตักเตือนก็ไม่พอใจ แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดและบีบแตรรถเสียงดังลั่นทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงกลางดึก จนแต่ละบ้านไม่เป็นอันหลับอันนอน รวมทั้งล่าสุดมีผู้เสียหายอีกรายหนึ่งออกมาแฉว่า ถึงขั้นต้องย้ายบ้านหนี พร้อมโชว์หลักฐานเป็นคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์เวลาประมาณ 01.30 น.ที่ตัวสามีออกมาสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วเร่งเครื่องเสียงดัง พร้อมกับบีบแตรเสียงดังต่อเนื่องนานหลายนาที

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2563 นายศุภกิจ พิลัยหล้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านป่าไม้แดง ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีชาวบ้านจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของสามีภรรยาคู่นี้ ที่มักจะส่งเสียงดังช่วงกลางคืน ทั้งโวยวาย, ทะเลาะกัน, ขว้างปาสิ่งของ และบีบแตรรถหรือเร่งเครื่องยนต์รถเสียงดัง แม้แต่ตัวเองก็ยังเคยประสบปัญหาด้วยตัวเองทั้งที่บ้านอยู่ห่างกันเป็น 100 เมตร ซึ่งมีชาวบ้านหลายรายเคยมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ และตัวเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านเคยเข้าไปตักเตือนแล้วหลายครั้งเช่นกันและมีการรับปากว่าจะไม่ก่อเหตุอีก แต่ยังคงเกิดปัญหาขึ้นอีก ทั้งนี้เตรียมที่จะจัดประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อปรึกษาหารือและขอมติเห็นชอบในการดำเนินการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยข้อเสนอของชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้ทั้งคู่ย้ายออกจากหมู่บ้านไป ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดและน่าจะเป็นไปได้เพราะทั้งคู่ไม่มีทะเบียนราษฎรอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาและมีมติร่วมกันให้ชัดเจนอีกครั้ง

ด้านนางประทุม พรหมกร อายุ 60 ปี อดีตเพื่อนบ้านของคู่สามีภรรยาที่เป็นต้นเหตุของปัญหา เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นคนพื้นเพบ้านป่าไม้แดงมาตั้งแต่อดีต และบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่ก็เป็นที่ดินตกทอดอยู่อาศัยกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ก่อนที่เมื่อประมาณปีกว่าที่ผ่านมาคู่สามีภรรยาดังกล่าวจะย้ายมาอยู่ และตัวเองยังเป็นคนที่ช่วยลงชื่อรับรองความประพฤติให้ด้วยสำหรับการเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน เพราะทั้งคู่เป็นคนต่างถิ่นและเป็นคนต่างด้าว ซึ่งในช่วงแรกที่มาอยู่อาศัยก็อยู่กันด้วยดี แต่พออยู่ไปก็เริ่มก่อปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน รวมทั้งครอบครัวของตัวเอง แม้กระทั่งกับตัวเองที่ดีกับทั้งคู่มาตลอดยังมักจะถูกทั้งคู่มาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายและแสดงพฤติกรรมรุนแรงใส่โดยไม่ทราบสาเหตุหลายครั้ง

จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่งในเดือน ก.ย.63 โดนกระทำอีกจนทนไม่ไหว จึงเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ และหลังจากนั้นได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ในหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนด เพื่อหลีกหนีให้ห่างจากบ้านของทั้งคู่ เพราะอดทนไม่ไหวแล้วและไม่ต้องการมีปัญหาอีก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเลย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองและล่าสุดกับเพื่อนบ้านคนอื่น เห็นว่าหากชาวบ้านจะรวมตัวกันขับไล่สามีภรรยาคู่นี้ออกไปจากหมู่บ้านก็น่าจะเป็นเรื่องที่สมควร เพื่อยุติปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เพราะที่ผ่านมาเคยมีเรื่องขึ้นโรงพักมาแล้วหลายครั้ง และเคยมีลงชื่อในบันทึกด้วยว่าพร้อมจะย้ายออกจากพื้นที่หากก่อปัญหาอีก.

ร่วมแสดงความคิดเห็น