กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบโปรแกรมขึ้นทะเบียนผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) และจัดทำแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ระยะยาว
วันนี้ (16 ธันวาคม 2563 ) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบโปรแกรมขึ้นทะเบียนผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) และจัดทำแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) ณ สำนักงานอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า การลงบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมอนามัยและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะดำเนินการร่วมกัน คือ 1) ร่วมกันในการพัฒนาปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโปรแกรมขึ้นทะเบียนผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) และจัดทำแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) หรือระบบโปรแกรม 3C 2) ร่วมพัฒนาระบบโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุในการสนับสนุนการขับเคลื่อนงานของบุคลากรในพื้นที่ ภายใต้โครงการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ในชุมชน ให้ก้าวสู่ความทันสมัยในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางข้อมูลและนวัตกรรมใหม่ที่ทันสมัยในการรองรับสังคมผู้สูงอายุต่อไปในอนาคต และ 3) พัฒนาระบบการรายงานข้อมูลผลการทะเบียนผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) และจัดทำแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) นำสู่การวิเคราะห์ประเมินสู่ระดับนโยบายต่อไป
“ทั้งนี้ ปัจจุบันการดำเนินงานขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุตามนโยบายของรัฐบาลให้มีการจัดระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) มีจำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับการลงทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 261,566 คน แบ่งเป็นผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) จำนวน13,871คน ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) จำนวน 89,374 คน นอกจากนี้ยังมีแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) หรือระบบโปรแกรม 3C เพื่อสนับสนุนครอบครัวให้มีศักยภาพในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้นและเอื้อให้ญาติผู้สูงอายุได้ดูแลกันเองในบ้านและในชุมชน เป็นแผนระยะยาว 20 ปี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น