กรมอนามัย ยัน ดื่มน้ำเปล่าเพียงพอ ดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องพึ่งน้ำด่าง-น้ำดื่มผสมวิตามิน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว ดีต่อสุขภาพ โดยไม่ต้องพึ่งการดื่มน้ำด่าง น้ำดื่มผสมวิตามิน หรือน้ำดื่มผสมคลอลาเจน พร้อมให้ผู้บริโภคสังเกตน้ำดื่มก่อนซื้อ ต้องใส ไม่มีตะกอน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ฝาผนึกปิดสนิท
​นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกระแสโฆษณาทางโทรทัศน์และ โซเชียลมีเดีย เรื่องน้ำด่าง pH 8.5 น้ำดื่มผสมวิตามิน น้ำดื่มผสมคอลลาเจน หรือสารอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้หรือได้รับจากการกินอาหารในแต่ละวัน ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายมนุษย์ต้องการน้ำดื่มสะอาดอย่างเพียงพอ วันละ 6–8 แก้ว หรือดื่มเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัวในช่วงหน้าร้อนหรือภาวะขาดน้ำ โดยน้ำสะอาดนั้นควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือ pH ประมาณ 7.00 หรืออยู่ในช่วง 6.5-8.5 ตามเกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภค กรมอนามัย หรือเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคในภาชนะที่บรรจุปิดสนิท จึงไม่จำเป็นต้องผสมสารอาหาร วิตามิน หรือด่างเข้าไป เพราะแค่จิบน้ำบ่อย ๆ อย่างเพียงพอ ก็ช่วยทำให้สดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รวมถึงร่างกายสามารถทำงานได้อย่างสมดุลแล้ว
“ทั้งนี้ ในแต่ละวันร่างกายมนุษย์ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายทั้ง 5 หมู่ จากการกินอาหาร ในแต่ละมื้ออยู่แล้ว โดยเฉพาะแหล่งอาหารจำพวกผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไขมัน ข้าวหรือแป้ง หากรับเพิ่มจาก น้ำดื่มผสมวิตามิน น้ำด่าง หรือสารอื่น ๆ ก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายแต่อย่างใด เพราะร่างกายมีความต้องการในปริมาณที่จำกัดในแต่ละวัน ถ้าหากเกินกว่าความต้องการแล้ว ระบบกลไกของร่างกายจะกำจัดออกมา ในรูปของเสียต่าง ๆ เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มผสมวิตามิน น้ำด่าง หรือสารอื่น ๆ ในราคาที่สูงอีกด้วย จึงแนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเลือกซื้อน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุปิดสนิทที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน ซึ่งก่อนซื้อควรพิจารณาโดยน้ำต้องใส ไม่มีตะกอน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ฝาผิดผนึกปิดสนิท ไม่มีร่องรอยการเปิดใช้งาน ภาชนะสะอาด ไม่รั่วซึม มีเครื่องหมาย อย. กำกับ และราคาเหมาะสม” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น