กรมขนส่งมอบของขวัญปีใหม่ ตรวจเช็คสภาพรถฟรี 20 รายการ สร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในการเดินทาง

กรมการขนส่งทางบกมอบของขวัญปีใหม่ประจำปี 2564 ด้วยการอำนวยความสะดวก สร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนจำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่” ระหว่างวันที่ 10 – 31 ธันวาคม 2563 โดยดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนนทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชน และเจ้าของรถให้ความสำคัญกับการตรวจสภาพความพร้อมของรถก่อนการเดินทาง เป็นการป้องกัน และลดปัจจัยเสี่ยงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ประชาชนสามารถนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เข้ารับบริการตรวจสภาพความพร้อมเบื้องต้นจำนวน 20 รายการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศ รวมกว่า 2,000 แห่ง อาทิ ผู้ผลิต และผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (โตโยต้าฮอนด้า อีซูซุ มิตซูบิชิ นิสสัน ฮุนได เชฟโรเลต เอ.พี.ฮอนด้า ซูซูกิ คาวาซากิ ยามาฮ่าเป็นต้น) บริษัทประกันภัย สถานตรวจสภาพรถเอกชน ศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส LPG/NGV หรือสังเกตหน่วยงานที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”

2. ขยายเวลาเปิดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จนถึงเวลา 18.00 น. ทุกวันทำการ ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 15 มกราคม 2564 ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นบริการทางเลือกสำหรับประชาชนที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีของรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่มีความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาในการหาที่จอดรถและไม่ต้องลงจากรถ เพียงขับรถเข้าช่องเลื่อนล้อแล้วชำระภาษีได้ทันทีแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (one stop service) ใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 2 นาทีต่อคัน

3. อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการดำเนินการต่ออายุทะเบียน และชำระภาษีรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ของรถทุกประเภทการขนส่งโดยให้สามารถทำได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการดำเนินการทางทะเบียน และภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2563 จากเดิมสามารถดำเนินการได้ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่เท่านั้น

เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมขนส่งทางบก สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือโทร. 02 2718888 หรือ 1584

ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก : Anti-Fake News Center Thailand

ร่วมแสดงความคิดเห็น