เชียงใหม่แรงงานต่างด้าวอื้อ! ลุยแผนคุมเข้ม ป้องกันความเสี่ยงพื้นที่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่ากระทรวงแรงงาน ได้เรียกผู้บริหารระดับสูงประชุม
เร่งด่วนกรณีการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ด้วยห่วงใยพี่น้องแรงงานต่างด้าว นายจ้าง/สถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว รวมทั้งประชาชนทุกกลุ่มจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคนี้ เบื้องต้นมีระงับการให้บริการศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวตั้งแต่ 21 ธ.ค. 2563 จนถึง 3 ม.ค. 2564
“และสั่งการให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศสำรวจตรวจสอบ แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการให้ทำงานได้โดยป้องกัน ความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด อาทิ ตรวจสอบคัดกรองวัดอุณหภูมิ ประชาสัมพันธ์วิธีป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนตลอดจนแรงงานต่างด้าวได้รับทราบ โดยจัดทำสื่อ 4 ภาษาทั้ง ภาษาไทย ลาว เมียนมา กัมพูชา เป็นต้น”


ทั้งนี้ข้อมูลสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางานระบุจำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในประเทศ
ไทยรวมทุกมาตรา ณ เดือน พ.ย. 2563 นั้นมีทั้งสิ้น 2,526,275 คน มากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร 589,419 คน จ.สมุทรสาคร 239,752 คน ส่วนเชียงใหม่มี 89,357 คน กระทรวงแรงงานได้ออกประกาศขอความร่วมมือห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 พร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งทำงาน สถานที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว ในขณะที่หน่วยงานท้องถิ่น ( อปท.ท้องที่,ปกครอง ) ใน จ.เชียงใหม่ ได้เร่งดำเนินตามมาตรการเช็คลิสต์ตรวจสอบสถานที่แรงงานต่างด้าวอย่างเข้มข้น อาทิ บริเวณกาดเมืองใหม่, สถานที่ก่อสร้าง แคมป์คนงาน โครงการจัดสรรขนาดใหญ่ ในพื้นที่เมือง,สันทราย,หางดง

อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวเชียงใหม่และชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยเป็นจำนวนมากเปิดเผยว่า หากเป็นแรงงานต่างด้าวในชุมชนที่คุ้นเคยจะไม่กังวลใจ แต่จะห่วงเรื่องการปล่อยปละละเลยให้มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันของแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก “โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ อย่างงานเคาท์ดาวน์ งานฤดูหนาว ที่มีกิจกรรมการแสดงมีการละเล่นต่างๆ และเป็นที่ทราบกันดีว่า กลุ่มที่ไปร่วมงานตามสถานที่เหล่านั้นจะเป็นแรงงานต่างด้าว มากกว่าผู้คนในพื้นที่ ควรมีการพิจารณาทบทวนการอนุญาตจัดงาน หรือชี้แจงมาตรการป้องกันความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้ชาวบ้าน มั่นใจด้วย”

ร่วมแสดงความคิดเห็น