กรมอนามัย ชี้ กินผัก – ผลไม้ แหล่งวิตามินซี ดีต่อสุขภาพ ช่วยต้านหวัด

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนกินผัก ผลไม้แหล่งที่มาของวิตามินซีอย่างพอเพียง ไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องดื่มหรือเจลลี่ผสมวิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ต้านโรคหวัดได้
​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยกระบวนการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการขจัดเชื้อโรค ต้านภูมิแพ้ ลดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ลดการจาม น้ำมูกไหล และป้องกันการเกิดหวัดได้ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินซีจำหน่ายในท้องตลาดหลากหลายรูปแบบ แต่ความจริงแล้วแหล่งวิตามินซีสามารถหาได้จากผัก ผลไม้ทั่วไป โดยมากพบในผักคะน้า สะเดา ผักหวาน ส่วนผลไม้จะพบมากในฝรั่ง และส้ม ดังนั้น การบริโภคเป็นประจำจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย และต้านโรคหวัดได้ โดยในหนึ่งวันหากเป็นผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชายควรได้รับวิตามินซีประมาณ 85 และ 100 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับเพิ่มวันละ 10 มิลลิกรัม หญิงให้นมบุตรควรได้รับเพิ่ม 60 มิลลิกรัมต่อวัน
​“ทั้งนี้ การบริโภคผัก ผลไม้ ปริมาณ 400 กรัม จะได้รับวิตามินซีประมาณ 210 – 280 มิลลิกรัม ก็เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำหรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมวิตามินซีแต่อย่างใด เนื่องจากมีผลสำรวจเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีหรือเจลลี่ที่จำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อพบว่า ปริมาณวิตามินซีต่อขวดจะอยู่ที่ประมาณ 100-120 มิลลิกรัม เท่านั้น หากจะพึ่งพาการดื่มเครื่องดื่มเสริมวิตามินซีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จะต้อง ดื่มมากถึงประมาณ 8 ขวดต่อวัน ถึงจะได้ปริมาณวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งในปริมาณวิตามินซีต่อขวดนั้น อาจสลายตัวไปก่อนหน้านั้นบ้างแล้ว จึงควรหันมากินผัก ผลไม้ แหล่งของวิตามินซีธรรมชาติโดยตรงแทนจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น