กองบัญชาการกองทัพไทยห่วงใยประชาชนในถิ่นกันดาร ส่งนักรบสีน้ำเงิน มอบเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์กีฬา และหน้ากากอานามัย

ประชาชนเดือดร้อน ทหารพร้อมยืนเคียงข้าง กองบัญชาการกองทัพไทย ห่วงใยประชาชน เด็ก ๆ ในถิ่นกันดาร ส่งนักรบสีน้ำเงิน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 มอบผ้าห่ม เครื่องนุ่งห่มกันหนาว อุปกรณ์กีฬา หน้ากากอนามัย ป้องกันโควิด-19 ให้เด็กนักเรียนบนดอยสูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอากาศที่หนาวเย็น
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 กองบัญชาการกองทัพไทย ห่วงใยประชาชน เด็ก ๆ ในถิ่นกันดาร ส่งนักรบสีน้ำเงิน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา / ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำเสื้อผ้าชุดกันหนาว ,ผ้าห่มกันหนาวและอุปกรณ์กีฬา ในโครงการ “กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมใจต้านภัยหนาว” ไปมอบให้เด็กนักเรียน ครู ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พลเอก อรชุน พิบูลนครินทร์ บ้านลุกข้าวหลาม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น นอกจากนี้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 ยังได้นำหน้ากากอนามัยไปแจกให้เด็ก ๆ นักเรียน ครู แนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี รักษาระยะห่าง ล้างมือด้วยเจล บ่อย ๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคไวรัสโควิด-19


สำหรับ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พลเอก อรชุน พิบูลนครินทร์ ตั้งอยู่ที่บ้านลุกข้าวหลาม ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ก่อตั้งเมื่อปี 2560 เปิดการเรียนการสอน ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึง ป. 6 มีจำนวนนักเรียน 56 คน เป็นโรงเรียนตั้งอยู่ในหุบเขาพื้นที่ทุรกันดาน ซึ่งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 จัดชุดลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดตั้งศูนย์การเรียนแห่งนี้ขึ้น เพื่อสนองพระราชดำริขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนชาวไทยภูเขา เผ่ามูเซอดำ บ้านลุกข้าวหลาม ได้มีสถานศึกษา บุตรหลาน ไม่ต้องเดินทางไกลไปเรียนโรงเรียนที่อยู่ห่างออกไป 9 กิโลเมตร หน้าฝนต้องเดินเท้า หน้าหนาวอากาศเย็นจัด เมื่อการก่อสร้างอาคารเรียนแล้วเสร็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานนามโรงเรียนเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ พลเอก อรชุน พิบูลนครินทร์ จัดหาอุปกรณ์การเรียน จัดเตรียมแปลงเกษตร ทำคอกปศุสัตว์ ทำระบบชลประทาน วางแผนงานสหกรณ์ และรับฟังข้อคิดเห็นต่าง ๆ จากชุมชน เพื่อให้การจัดการศึกษาของบุตรหลานเกิดประโยชน์สูงสุด หลังเปิดทำการสอนได้ 2 ปี พบว่า มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น คนในชุมชนเกิดความรัก ความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีโรงเรียนเป็นศูนย์กลางทำกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต ทางโรงเรียนจะเร่งติดตั้งระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อแก้ปัญหาครูไม่พอ ปัจจุบัน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน 4 นาย จัดทำระบบชลประทานให้โรงเรียนและชุมชน มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ส่งเสริมให้ทำขั้นบันไดดินป้องกันดินพังทลาย ปลูกหญ้าแฝกรักษาหน้าดิน ปลูกไม้ผลเพิ่มเติมเพื่อลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ส่วนการฝึกอาชีพ มีกลุ่มแม่บ้านสอนการถนอมอาหาร ทำผักกาดดอง หน่อไม้ดอง มะขามป้อมดอง และมีการฝึกงานจักสาน และฝึกเย็บผ้าแบบด้นตะลุย ซึ่งเป็นหัตถกรรมของชนเผ่ามูเซอ


นอกจากนี้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ยังได้สนับสนุนโรงเรียน โดยการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กความยาว 200 เมตร กว่าง 4 เมตร สร้างระบบน้ำดื่ม RO ผลิตน้ำดื่มสะอาด มอบถังเก็บน้ำขนาด 50 ลูกบาศ์กเมตร เพื่อให้ลูกหลานของประชาชนในพื้นห่างไกล ที่มีการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น