วอร์มอัพเชียงใหม่ ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อ พร้อมนำพนักงาน 150 คน ตรวจเชื้อ ปิดบริการร้าน14 วัน รับผิดชอบต่อสังคม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ม.ค. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณร้าน วอร์มอัพ คาเฟ่ เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สสจ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจ พร้อมดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อโรค ภายในบริเวณร้านดังกล่าว ภายหลังจากพบไทม์ไลน์ที่ผู้ป่วยหญิงสาววัย 25 ปี ชาวอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าใช้บริการในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 63 ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ และวันที่ 1 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องพบว่าในวันคืน วันที่ 31 ธ.ค. 63 หญิงสาวรายนี้ได้มาถึงร้าน เวลาประมาณ 20:43 น. และเข้ามาใช้บริการในโซนผับ เวลา 20:52 น. นั่งโต๊ะ A22 และออกจากโซนผับเวลา 00:19 น. ต่อมาในคืนวันที่ 1 ม.ค. 64 ได้เข้ามาใช้บริการ เวลา 21:51 น. และนั่งโต๊ะ N5 (หน้าบ้าน)

โดยในการดำเนินการวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเข้ามาทำความสะอาด ทุกซอกทุกมุมของร้าน เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ทราบข่าวถึงการเข้ามาใช้บริการของผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ทางร้านยังได้มีการนำพนักงานที่ทำงานในวันดังกล่าวและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวม 150 คน ดำเนินการตรวจเชื้อ อีกทั้งดำเนินการให้กักตัวตามมาตรการควบคุมโรค และทางร้านยังจะดำเนินการปิกให้บริการเป็นจำนวน 14 วัน หลังจากที่ทาง คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งที่ 2/2564 ประกาศปิดสถานที่ ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีคำสั่ง ณ วันที่ 4 ม.ค. 64 และกำหนดให้ทางร้านปิดบริการ 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่คืนวานนี้ (4 ม.ค. 64) และนับไปอีก 14 วัน

ขณะเดียวกันทางด้าน ดร.ดนัย สารพฤกษ์ ผอ.ส่วนส่งเสริมสาธารณสุขฯ ฝ่ายป้องกันและควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในการดำเนินการวันนี้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ประสานงานกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานบริการ สถานบันเทิง ที่ทางระบาดวิทยาแจ้งว่า ผู้ป่วยรายที่ 50 ของ จังหวัดเชียงใหม่ได้มาใช้บริการและในวันนี้ก็จะมีการลงพื้นที่ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในสถานบันเทิงทั้ง 5 แห่ง รวมทั้งตลาดนัดที่หญิงสาวที่ติดเชื้อได้เดินทางไปใช้บริการด้วย และหลังจากนี้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็จะมีการเข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับทางผู้ประกอบการเฝ้าระวังทำความสะอาดพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ จนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น