(มีคลิป) รวบแล้ว มือปืนอุกอาจ ยิงคู่อริแยกไฟแดง กลางเมืองเชียงใหม่ เผยสาเหตุมีเรื่องทะเลาะกันเพราะไม่พอใจคู่กรณีพูดยุแยงจนถูกไล่ออกงาน ด้าน จนท.ตำรวจ สอบสวนนำตัวดำเนินคดี

จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกลางสี่แยกไฟแดง เมื่องสมุทร ก่อนถึงตลาดเมืองใหม่ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์อุกอาทที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันนี้ (5 ม.ค.64) โดยคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ได้ขับรถยนต์ติดตาม รถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน งว 3564 เชียงใหม่ ของคู่กรณี มาถึงยังบริเวณสี่แยกไฟแดงดังกล่าว ก่อนจะลงมาจากรถ แล้วชักอาวุธปืนพก มาทำการจ่อยิงที่บริเวณกระจกรถด้านข้างรถ 2 นัด แต่ทางผู้เสียหายได้พยายามขับรถหลบหนี และได้เข้ามาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ห่างจากจุดที่ถูกยิงประมาณ 3 กม. เพื่อรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ เนื่องจากถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นแขนซ้าย 1 นัด และทราบชื่อคือนาย วิพะสุจณ์ สังขรัตน์ อายุ 39 ปี และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้องด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าทำการตรวจสอบรถคันเกิดเหตุที่ถูกยิง และรวบรวมหลักฐานติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้

จนกระทั่งต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้ทันควัน และทราบชื่อต่อมาคือ นายสมหมาย บุญแอ อายุประมาณ 49 ปี ที่อยู่ 17/3 ม.4 อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าหลังเจ้าตัวก่อเหตุได้เดินทางไปที่บ้านพักในพื้นที่ อ.สันกำแพง และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปจนเจอตัว พร้อมทั้งเชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกับพี่ชายของผู้ก่อเหตุ

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สาเหตุของเรื่องราวข้างต้นเกิดจากทางผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุนั้นทำงานที่เดียวกัน เกี่ยวกับร้านอาหารปักษ์ใต้ แล้วต่อมาทางผู้ก่อเหตุได้ถูกทางร้านไล่ออกจากงาน ซึ่งทางเจ้าตัวนั้นคิดว่าการที่ถูกไล่ออกครั้งนี้มาจากทางผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่กรณีที่ถูกยิง เป็นคนไปยุแยงทำให้เจ้าตัวถูกไล่ออก จึงเกิดความแค้นไม่พอใจและได้มีการทะเลาะกัน จนต่อมา ทางเจ้าตัวผู้ก่อเหตุได้ติดตามมาใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ภายหลังการสอบสวน ทางด้าน นายสมหมาย ได้ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวน และส่งตัวผู้ก่อเหตุให้ทางพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น