(มีคลิป) ไล่ล่าไอ้เอ็มจอมหื่นหลังก่อเหตุเหมารถสองแถวกลับบ้าน พลิกประวัติโชกโชนไม่ธรรมดา เคยติดคุกบางขวางคดีฆ่าชู้รักเมียคนก่อนมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ม.ค.64 ว่า ตามที่ผู้ต้องหา “คดีบุกรุกข่มขืน “ที่ก่อเหตุกับแม่บ้านที่ ต.ร่องฟอง หนีวงล้อมตำรวจ สภ.เมืองแพร่ เตลิดหนีกลับบ้านเกิด บ้านนาไร่เดียว ม.4 ต.เตาปูน อ.สอง เจอกำลังเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามขณะกำลังลงจากรถสองแถวที่เหมาจากในตัวเมืองมาในราคา 300 บาท วิ่งเตลิดเข้าป่าห้วยเลาเหนือป่าของหมู่บ้านนั้น

 

ต่อมา พ.ต.อ. บำรุง น้อมเศียร ผกก. สภ.สอง ร่วมกับ นายกิติพัฒน์ กะวัง นายอำเภอสองนำกำลังฝ่ายปกครอง นายซัน เขม็ด กำนันตำบลเตาปูน นางสังเวียน คำเขิน ผญบ.นาไร่เดียว นำกำลังชุดป้องกันหมู่บ้านตำบลเตาปูน พ.ต.ท.ดิเรก กาศจักร สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองแพร่ นำชุดสืบสวนไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด ล้อมพื้นที่ป่าโดยรอบไว้ทุกจุดเนื่องจาก ไอ้เอ็มชำนาญพื้นที่จึงยากในการติดตาม

 

ต่อมา นายสม กิติวงค์ ผู้ช่วย ผญบ. ม.7 ต.ห้วยหม้าย ฝ่ายปกครอง อ.สอง ได้เจอผู้ต้องหาวิ่งหนีมาทางออกถนนเส้นทางสอง- เชียงม่วน เลยหน่วยต้นน้ำสอง มาทางทิศเหนือ จึงวิทยุให้ ชุดติดตามกระชับพื้นที่เพื่อจับกุมตัว โดยมีนายอำเภอสองพร้อมกำลังหลายฝ่ายตั้งจุดสกัดทางเข้าออกคาดว่าคงจับกุมได้ในเวลาอีกไม่นาน

สอบถามนางเทียน จัดชาวนา อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 90/1 บ.นาไร่เดียว ต.เตาปูน อ.สอง ที่เป็นมารดา ว่าอยากเจอลูกชายตัวเป็นๆ อยากให้ลูกมอบตัวกับตำรวจ เพราะจะได้รับโทษ มีโอกาศหลังพ้นโทษ จะกลับตัวเป็นคนดีได้ วอนให้ลูกมอบตัว ส่วนที่กระทำผิดไม่ทราบมาก่อนลูกเหมารถสองแถวมาราคา สามร้อยบาท จากในตัวเมืองเป็นรถสายแพร่- สอง ไม่ทันจ่ายค่ารถ เจอตำรวจรออยู่ในบ้าน และไล่ตามมาจึงวิ่งหลบหนี คนขับรถรับจ้างจึงมาขอเงินค่าโดยสารจากแม่ แม่มีเงินติดตัว 100 บาท คนขับรถโดยสารก็ต้องเอา และบอกเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการพาหนี เป็นรถรับจ้างสายนี้อยู่แล้ว มีคนเหมาก็ต้องเอา

ญาติผู้ต้องหา ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอีกว่าไอ้เอ็มผู้ต้องหาเคยต้องคดีฆ่าคนตาย คนที่มาติดพันภรรยา คนก่อนเหตุเกิดที่กรุงเทพ โดนดำเนินคดีตัดสิน 14 ปี และประพฤติตัวดีได้รับการลดโทษและอภัยโทษ ออกคุกมาประมาณ 1 ปี มาได้ภรรยาใหม่ที่หมู่บ้านใกล้กันและภรรยาถูกดำเนินคดี คดียาเสพติด เพิ่งติดคุกได้ประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมาและไอ้เอ็มถูกแจ้งความดำเนินคดีประสงค์ต่อทรัพย์ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายต้องหนีออกจากหมู่บ้าน ไปหาทำงานในตัวเมืองแพร่ จนมาก่อเหตุดังกล่าว ส่วนการติดตามไล่จับขณะนี้เวลาเกือบ 16.40 น. ยังไม่มีรายงานการจับกุมผู้ต้องหาได้แต่อย่างใด