(มีคลิป) ตำรวจบุกรวบแล้ว ตีสองครึ่ง “ไอ้เอ็ม” จอมหื่น ทนหิวข้าว และทนหนาวในป่าไม่ไหว หนีออกป่ามานอนในบ้านขอผ้าห่มแม่

เรื่องราวเหตุการณ์คดีอุกฉกรรจ์บุกขืนใจชาวบ้านกลางวันแสก ๆ ที่เมืองแพร่ เมื่อกลางวันวันที่ 10 ม.ค.64 ที่บ้านร่องฟอง อ.เมือง จ.แพร่ โดยคนร้ายคือ นายพิพัฒน์(สงวนนามกสุล) อายุ 25 ปี บ้านนาไร่เดียว หมู่ 4 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ตำรวจได้ไล่ล่าจับกุม จนคนร้ายหนีกลับบ้านไปหลบซ่อนตัวที่บ้านเกิด เมื่อวานวันที่ 11 มกราคม 2564

โดยเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 12 มกราคม 2564 ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.ดิเรก กาศจักร สว.สส. โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ บูรณาการร่วมกับพ.ต.อ. บำรุง น้อมเศียร ผกก. สภ.สอง พ.ต.ท.พุทธิพัชร โปธาตุ สว.สส. ร่วมกับ นายกิติพัฒน์ กะวัง นอภ.สอง และฝ่ายปกครอง อ.สอง สามารภจับกุม นายพิพัฒน์ฯ หรือ ไอ้เอ็ม ได้แล้วที่บ้าน โดยไอ้เอ็มทนนอนหนาวในป่าไม่ไหว จึงย่องออกมาจากป่า เพื่อเข้ามาขอขมากราบเท้าแม่ และนอนด้วยในห้องนอนแม่ โดยแม่ได้ส่งสัณญาณให้ตำรวจเข้าจับกุมไม่มีการขัดขืน จากนั้นจึงได้นำตัวมาที่ สภ.เมืองแพร่

ในเบื้องต้นนายพิพัฒน์ฯ หรือ ไอ้เอ็ม ให้การว่า สาเหตุที่เข้าไปก่อเหตุนั้น เนื่องจากหลังจากเข้าไปถามหาเจ้าของบ้านเช่าคนเก่าแล้ว ไปเจอนางแดง(นามสมมุติ) อายุ 37 ปี จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ ประกอบกับคิดถึงแฟน ที่ติดคุกอยู่ในเรือนจำ จ.แพร่ จึงได้ก่อเหตุขึ้น หลังจากก่อเหตุก็ได้มานอนพักที่ห้องพักในโรงงานน้ำดื่มวีนัส บ้านกวาว ต.กาญจนา โดยทำตัวเป็นปกติ จนกระทั่งออกไปซื้อกับข้าว และเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ห้องพัก จึงได้เดินหลบเลี่ยง ก่อนจะวิ่งลัดป่าออกมาถึงถนนใหญ่ จากนั้นเดินตามถนนไปนั่งรอรถโดยสารที่แยกกอเปา จากนั้นจึงได้เหมารถกลับไปบ้าน

นายพิพัฒน์ฯ ให้การต่อไปว่า เมื่อไปถึงบ้านเห็นมีตำรวจและฝ่ายปกครอง จึงได้วิ่งหนีเข้าป่า โดยอาศัยน้ำ ตามห้างสวนในป่า ดื่มกินประทังชีวิต โดยไม่ได้หลบหนีไปไหนไกล อาศัยพงหญ้ามองเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองที่ตามหาตลอด ระหว่างนั้นก็สำนึกผิดเป็นห่วงแม่ เพราะได้ยินเสียงตามสาย ผู้ใหญ่บ้านประกาศว่า แม่ขอให้มามอบตัวอย่าหนีเลยจึงสำนึกได้ กระทั่งเวลา 02.30 น. อากาศในป่าหนาวเย็นมากทนไม่ไหว จึงได้ย่องเงียบเข้ามาที่บ้าน มากราบเท้าแม่ และขอนอนในห้องกับแม่เป็นคืนสุดท้ายก่อนจะมอบตัว จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม

พ.ต.ท.ดิเรก กาศจักร สว.สส.สภ.เมืองแพร่ เผยว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.แพร่ ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดไม่บ่อยนัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ได้รับแจ้งความก็ได้ ทำการสืบสวนในเชิงลึก จนสามารถรู้ถึงตัวคนก่อเหตุ แต่ยอมรับว่า นายพิพัฒน์ฯ วิ่งเร็ว เอาตัวรอดได้ดี ประกอบกับเป็นนักมวยเก่า จึงได้หลบหลีกเร็ว จนทำให้การจับกุมยึดเวลาไป แต่หลังจากที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง ทราบว่านายพิพัฒน์ฯ เข้าพื้นที่แล้ว ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ ก็ลงพื้นที่ ร่วมกับ พ.ต.อ.บำรุง น้อมเศียร ผกก.สภ.สอง.พ.ต.ท.พุทธิพัชร โปธาตุ สว.สส.สภ.สอง นายกิติพัฒน์ กะวัง นอภ.สอง นำ อส.กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ร่วมกดดัน ประกาศเสียงตามสายลุยทั้งวัน จนสามารถจับกุมได้ในครั้งนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น