นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ในปีนี้จังหวัดแพร่ประกาศห้ามเผาทุกพื้นที่โดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2564 มีมาตรการป้องกันปัญหาหมอกควันและไฟป่า มีเป้าหมายจังหวัดแพร่มีคุณภาพอากาศที่ดี พื้นที่การเผาลดลงร้อยละ 20 จากปี 2563 โดยมีกลไก จัดตั้งศูนย์ควบคุมไฟป่า ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล และลงถึงระดับหมู่บ้าน ชุมชน และครัวเรือน ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ลดการเผาในทุกพื้นที่ เช่น พื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมทาง และพื้นที่ชุมชน มีการชิงเก็บเศษวัสดุการเกษตรในพื้นที่นา เศษใบไม้ ในพื้นที่ป่า แทนการเผา นำมาทำเป็นปุ๋ยหรือทำประโยชน์แทนการเผา ใช้ดาวเทียมตรวจจับจุดความร้อน เตรียมกำลังพลเข้าดับไฟ ในพื้นที่ทันที หากพื้นที่สูงชัน เข้าถึงยาก จะได้ประสานหน่วยดับไฟป่าต่อไป นำใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ลาดตระเวน และติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ป่า เพื่อป้องกันและช่วยตามหาผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดทางกฎหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จากการรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ ประจำวันที่ 30 มกราคม 2564 มีค่าฝุ่นละอองลดลงจากเดิมค่าฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ 58-64 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เหลือ 41 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในช่วงคุณภาพอากาศปานกลาง ค่าจุดความร้อนมีเพียง 16 จุด เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 สูงถึง 102 จุด ลดลง จำนวน 86 จุด ซึ่งในพื้นที่จังหวัดแพร่ มีเผาในบางพื้นที่ เช่น พื้นที่ไร่ข้าวโพด พื้นที่ป่า และพื้นที่นา บางส่วน เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอร้องกวาง 11 จุด อำเภอสองและอำเภอลอง อย่างละ 2 จุด
“ค่า PM 2.5 ของจังหวัดแพร่ มีแนวโน้มลดลง เกิดจากประชาชนชาวจังหวัดแพร่ ร่วมกันป้องกันไฟป่า จัดทำแนวกันไฟ ลดการเผา ลดการเกิดฝุ่นควัน PM 2.5 เพื่อสุขภาพที่ดีของคนจังหวัดแพร่ หากประชาชนพบเห็นการเผา หรือเกิดไฟไหม้ ในพื้นที่ป่า พื้นที่ทุ่งนา พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมทาง พื้นที่ในที่โล่งแจ้ง ขอให้แจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. เทศบาล หรือนายอำเภอ หรือโทรแจ้ง 191 เพื่อเจ้าหน้าที่ จะได้เข้าไปดับไฟอย่างรวดเร็ว ลดการลุกลามอย่างทันท่วงที ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2564 ผู้ใดฝ่าฝืน หรือเผาในที่โล่งแจ้งทุกพื้นที่ จะมีความผิดจำคุกสุงสุด 20 ปี หรือ ปรับ 2 ล้านบาท หรือทั้งจำและปรับ”
ร่วมแสดงความคิดเห็น