หนุ่มไทใหญ่โดนมีดแทงคอ 1 แผล หน้าผาก 2 แผกลางถนน ผู้ตายใช้ค้อนสู้ไม่ไหว หนีไปตายในกระท่อม

ช่วงสายวันที่ 2 ก.พ. 64 ทาง พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.ภ.แม่ริม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาสกร ปกปิงเมือง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบริเวณกระท่อมหลังหนึ่งในสวนผัก หมู่บ้านเหมืองผ่า หมู่ 7 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จึงนำกำลังชุดสืบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเมื่อมาถึงพบคราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มที่นอนและมุ้ง ขณะเดียวกันบนที่นอนพบศพชายอายุประมาณ 30 ปี ทราบชื่อภายหลังว่านายหลาว (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นชาวไทใหญ่
จากการตรวจสอบชันสูตรศพในที่เกิดเหตุ พบร้องรอยถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมที่ลำคอ 1 แผล และ หน้าผากอีก2 แผล คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ชั่วโมง นอดจาดนี้ บริเวณด้านข้างกระท่อมพบขวดเหล้าขาวอยู่ 5 ขวด บนถนนห่างจากกระท่อมประมาณ 100 เมตร พบร่องรอบคราบเลือดกลางถนน พบค้อน 1 ด้าม และปลายมีดเปื้อนเลือดในสภาพหักปลายตกอยู่ใกล้กันบริเวณเดียวกันพบรองเท้าแตะสีดำสองคู่ตกอยู่

จากการสอบสวน นายจระส กลิ่น ชูคนดูแลสวน ให้การว่า นายหลาวเป็นแรงงานชาวไทใหญ่ มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง นานๆ จะมาหางานทำตามสวนผักและดอกไม้ในบริเวณนี้ แต่ก่อนเกิดไม่เจอหลายเดือนแล้วเพิ่งมาเจอในสภาพเป็นศพในช่วงเช้าวันนี้ ที่ผ่านมานายหลาวดื่มสุราเป็นประจำแต่ก็ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร
ส่วนคนสวนใกล้เคียง ให้การว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาประมาณ 21.00น.ได้ยินเสียงผู้ตายคุยกับชายอีกคนหนึ่ง แต่ฟังไม่ออกว่าคุยเรื่องอะไรแต่ก็ไม่ได้เอะใจเพราะฟังแล้วไม่เหมือนทะเลาะเลอะแว้งกันก่อนจะมาพบเสียชีวิตในช่วงเช้า
ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.มาโนช กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายจะดื่มสุรากับใครอีกคนหนึ่งก่อนจะเกิดทะเลาะกันถึงขั้นลงมือทำร้ายกัน โดยคาดว่าจะมีเรื่องกันที่กระท่อมก่อนจะวิ่งไล่ทำร้ายกันไปตามถนน จากบาดแผลคาดว่าผู้ก่อเหตุจะใช้มีดเป็นอาวุธส่วนค้อนที่ตกอยู่เป็นของผู้ตาย หลังถูกแทงผู้ตายก็ได้หลบเข้าไปในกระท่อมที่พักและคาดว่าเสียเลือดมากจนเสียชีวิตส่วนคู่กรณีที่ก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนหาตัว แต่คาดว่าจะหาจตัวได้ไม่ยากเพราะในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นคนงานทำสวนที่รู้จักกัน โดยหลังตรวจที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลนครพิงค์ ขณะที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่หาตัวคนร้ายและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น