(มีคลิป) ยังวุ่นไม่เลิก! ลุงอายุ 69 ปี ถูกเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ 58,800 บาท ด้าน อบต. ยัน! เรียกคืนตามกระบวนการ และจะหาช่องทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโจโก้ ม.5 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย มีผู้ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ และมีหลานชายนำเอาความเดือดร้อนไปโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟสบุ๊ก ขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามกรณีดังกล่าว พบกับนายเหลี่ยม รู้เตียมตัน อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 30 ม.5 ต.ตับเต่า อ.เทิง ได้เล่าผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงปลายปี 2563 ตนได้รับเอกสารแจ้งจาก สนง.สงเคราะห์ทหารผ่านศึก จ.เชียงราย เพื่อให้ไปแจ้งยกเลิกการรับเบี้ยผู้สูงอายุจาก อปท.ในพื้นที่ เนื่องจากเป็นการรับเงินช่วยเหลือซ้ำซ้อน ตนก็เลยเอาหนังสือดังกล่าวไปแจ้งขอยกเลิกการรับเบี้ยผู้สูงอายุกับเจ้าหน้าที่ อบต.ตับเต่าที่มาจ่ายเบี้ยฯในหมู่บ้าน แต่ต่อมาทาง อบต.ตับเต่า ก็ได้ติดต่อมาหาตนบอกว่าจะต้องนำเงินที่เคยได้รับการช่วยเหลือไป รวมเป็นเงินประมาณ 6 หมื่นบาท โดยจะต้องจ่ายงวดแรกเป็นเงิน 20% ของเงินต้นที่รับไป ซึ่งเป็นเงินอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท ตนไม่มีเงินไปจ่ายคืนเขา แค่ 500 บาท ยังไม่มีคืน จะเอาเงินหมื่นที่ไหนไปจ่าย ทุกวันนี้ยังต้องดูแลหลานชายที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 พ่อแม่เด็กแยกทางกันไปมีครอบครัวใหม่ ลูกชายตนหรือพ่อเด็กก็ส่งเงินมาข่วยบ้างเดือนละ 500-600 บาท บางเดือนก็ไม่ส่งมา ยิ่งตอนนี้เจอวิกฤติโควิดลูกชายตนก็ต้องตกงานอีก ตนกับหลานต้องกินอยู่กับญาติพี่น้อง บางวันหลานก็ไม่ได้เงินไปโรงเรียนก็มี ส่วนตนก็พิการทางสายตา เมื่อตอนหนุ่มเคยเป็นทหารพราน และโดนระเบิดควันเข้าตา ส่งผลให้ทุกวันนี้สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด โดนแดดแรงไม่ได้ ไปทำมาหากินอะไรก็ไม่ได้ อยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ

ด้านนายอุทัย ทองทั่ว นายก อบต.ตับเต่า อ.เทิง เผยว่า กรณีของนายเหลี่ยมนี้ เริ่มแรกนายเหลี่ยมเป็นผู้มาขอยกเลิกการรับเบี้ยฯด้วยตนเอง และนำหนังสือจากสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกมาแสดงด้วย ทาง อบต. จึงได้ติดต่อเพื่อขอข้อมูลจากสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกว่าในพื้นที่ต.ตับเต่า อ.เทิง มีผู้ได้รับเงินซ้ำซ้อนทั้งหมดกี่ราย ผลตรวจสอบปรากฏว่ามีเพียงกรณีของนายเหลี่ยมเพียงรายเดียว จากการสอบถามทราบว่านายเหลี่ยมทราบว่าได้รับเบี้ยช่วยเหลือจากทหารผ่านศึกเดือนละ 4,000 บาท มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 และมาขอรับเบี้ยยังชีพกับอบต.ตับเต่า ตั้งแต่เดือน ต.ค. พ.ศ.2556 จนมาแจ้งยกเลิกเมื่อเดือน พ.ย. พ.ศ.2563 รวม 98 งวด เป็นเงิน 58,800 บาท โดยถ้าจะผ่อนจ่าย จะต้องคืนงวดแรก 20% เป็นเงินอยู่ 11,760 บาท ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับผู้สูงอายุ

นายอุทัยกล่าวต่อว่า ในขั้นตอนการมาขอรับเบี้ย ในใบเอกสารการสมัครจะมีให้ผู้มาขอรับความช่วยเหลือจะต้องรับรองตนเองว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น แต่กรณีลุงเหลี่ยมอาจเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทาง อบต.ได้แจังไปยังเจ้าตัวถึงความจำเป็นที่ต้องเรียกคืนเบี้ยไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้วิตกกังวลมากเกินไป ทาง อบต.ก็กำลังหาช่องทางช่วยเหลืออยู่

“ในกระบวนการเรียกคืนเบี้ยเป็นขั้นตอนที่ต้องกระทำตามคำสั่งของกรมบัญชีกลาง แต่ทาง อบต.ก็ไม่ได้ไปเร่งรัด ยังจะหาช่องทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบ อยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยกเลิกกฏที่ระบุว่าจะต้องจ่ายเงินผ่อนคืนงวดแรก 20 % โดยใช้กำหนดใหม่ให้อยู่ในดุลยพินิจของ อปท.ในพื้นที่ก็ได้ เพราะจากการพูดคุยกับผู้เดือดร้อนก็ต้องการจะคืนเงิน โดยจะนำเงินช่วยเหลือจากเบี้ยคนพิการที่ทาง อบต.จ่ายให้เดือนละ 800 บาทมาจ่ายคืนส่วนของเบี้ยผู้สูงอายุ แต่ถ้าไปเรียกเอาเงินก้อนเขาคงไม่มีมาจ่ายให้ วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาผ่อนปรนช่วยเหลือ” นายอุทัยกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น