ผวจ.แพร่ลงพื้นที่แก่ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เมื่อวันที่ 4กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสอง จังหวัดแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยคณะจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่ ประกอบด้วย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแพร่ (ฝ่ายทหาร) ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดแพร่ และประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ เข้าร่วมตรวจติดตามการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กพร้อมมอบนโยบายและมาตรการ 6 ด้านให้อำเภอสอง และอำเภอร้องกวางนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน และเข้มข้นภายใต้การบริหารงานแบบ Single Command
กลไกสำคัญที่เป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จทำให้จังหวัดแพร่ ฟ้าใส ไร้หมอกควัน ได้แก่ กลไกด้านการบริหารจัดการ โดยใช้ระบบบัญชาการเหตุการณ์แบบ Single Command กลไกด้านการลดปริมาณเชื้อเพลิง โดยการลดการเผาการจัดทำแนวกันไฟ กลไกด้านการประชาสัมพันธ์โดยการสร้างความตระหนักรู้ สร้างการรับรู้ แก่ประชาชน กลไกด้านทีมประชารัฐมีการร่วมมือภาครัฐเอกชน รัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลไกด้านกฎหมายบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แจ้งความหาผู้กระทำผิดทุกกรณีที่เกิดไฟไหม้ในทุกพื้นที่ และกลไกสุดท้ายการสร้างความยั่งยืน ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน การปลูกป่าป้องกันไฟป่า การสร้างฝายชะลอน้ำ เป็นต้นนายกิติพัฒน์ กะวัง นายอำเภอสอง ได้กล่าวถึงการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า อำเภอสองได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอ สำรวจอุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่มีอยู่ในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์เตรียมรับสถานการณ์ ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด ปลูกพืชใช้น้ำน้อย สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนมีการกั้นกระสอบทรายเพื่อรักษาและยกระดับน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่เสี่ยง การบริหารจัดการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่สองอย่างเป็นระบบ
สำหรับการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน PM 2.5 ของอำเภอสองนั้น ด้านการบริหารจัดการได้มีการประชุมขับเคลื่อนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอ ณรงค์ประชาสัมพันธ์ทางหอกระจายข่าวและเสียงตามสายประจำหมู่บ้าน 85 หมู่บ้าน จัดทีมประชารัฐลงพื้นที่ จัดเวทีสร้างความเข้าใจกับประชาชน 40 หมู่บ้าน จัดทำธนาคารใบไม้ ด้านการลดความเสี่ยง จัดสร้างฝายชะลอน้ำ จัดทำแนวกันไฟ จุดคัดกรอง ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วระดับตำบลเพื่อป้องกันและดับไฟป่า ติดตั้งวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยง โดยมีเป้าหมายจุดความร้อนลดลงอย่างน้อย 20 % จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปีด้านนายกล้าณรงค์ พงศ์สิทธิคุณ นายอำเภอร้องกวางได้สรุปมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า พื้นที่เสี่ยงสูงสุดได้แก่ ตำบลห้วยโรง หมู่ 3 หมู่ 6 หมู่ 8 ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ส่วนน้ำเพื่อการเกษตร ได้แก่พื้นที่ตำบลแม่ยางตาลหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 9 สำหรับการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ทาง อบต.ห้วยโรง จัดหาแหล่งน้ำสำรองซึ่งได้ดำเนินการแล้ว อบจ.แพร่ได้ขุดเจาะบ่อบาดาล 74 บ่อ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ นอกจากนั้นยังมีการสำรวจ ซ่อมสร้างภาชนะเก็บน้ำบาดาล และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ส่วนการแก้ไขในระยะกลาง ด้วยการสร้างฝายชะลอน้ำถาวร และระยะยาวนั้นเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มระบบชลประทานส่งน้ำ ทั้งนี้อำเภอร้องกวางมีข้อมูลอ่างเก็บน้ำ จำนวน 16 แห่งปริมาณเก็บกักรวม 47 ล้านลูกบาศก์เมตร สระเก็บน้ำ จำนวน 58 แห่ง ฝายกักเก็บน้ำ จำนวน 39 แห่ง บ่อบาดาล จำนวน 160 แห่ง รถบรรทุกน้ำ 14 คัน ถังเก็บน้ำกลาง จำนวน 160 ถัง
มาตรการการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันอำเภอร้องกวาง ได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอ มีแผนงานโครงการจำนวน 13 โครงการ งบประมาณ 1,287,037 บาท มีมาตรการดำเนินการเน้นหนักการสร้างความตระหนักได้แก่ประชาสัมพันธ์เชิงรุก พบปะเกษตรกรในพื้นที่ จัดทำบัญชีกลุ่มเสี่ยง การบังคับใช้กฎหมาย สร้างเครือข่ายประจำหมู่บ้าน ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อแจ้งเหตุการณ์และประสานการดับไฟ ด้านปัญหาอุปสรรค ได้แก่ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงยากแก่การเข้าพื้นที่ อัตรากำลังไม่เพียงพอ เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ในการดับไฟไม่เพียงพอ เป็นต้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น