เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.พ. 64 นายสิทธิโชค ภูมิตัน อายุ 37 ปี บ้าน ม.1 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายกิตติพันธ์ สุนันต๊ะ อายุ 37 ปี บ้าน ม.2 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประสงค์ สมพรเสริฐ รอง สว. (สอบสวน ) สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ว่าเมื่อเวลา 22.50 น. (วันที่ 13 ก.พ.) คืนที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองคนอยู่หน้าร้านคาร์แคร์ ในปั้มน้ำมัน ป.ต.ท.เชียงแสน ได้มีชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนได้บุกเข้ามาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ โดยนายสิทธิโชค มีบาดแผลที่บริเวณหลังใบหูข้างซ้าย ต้องไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลเชียงแสนถึง 2 เข็ม สำหรับนายกิติพันธ์ มีรอยช้ำที่บริเวณโหนกแก้ม และท้ายทอยบวม
นายสิทธิโชค ได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ตนเปิดร้านคาร์แคร์อยู่ในปั้มน้ำมัน ป.ต.ท.เชียงแสน มีนายกิตติพันธ์ เป็นผู้ดูแล ขณะนั้นมีชุดกู้ภัยสยามรวมใจจุดเชียงแสน ซึ่งมีจุดพักอยู่ฝั่งตรงข้ามกับปั้มน้ำมัน ได้มีการสังสรรค์และเปิดเพลงเสียงดัง จนนายกิตติพันธ์นอนไม่หลับได้โพสข้อความลงไปในเฟสบุ๊ค ในกลุ่มข่าวชาวเจียงฮาย News. V.2 ว่า “ขณะนี้เวลา 22.25 น. โดยประมาณ ขอบคุณมูลนิธิสยามรวมใจจุดเชียงแสนด้วยนะครับ ที่พร้อมบริการประชาชน แต่จะดีกว่านี้ถ้าเบาเสียงลงหน่อยนะครับ บางทีประชาชนในพื้นที่ต้องการพักผ่อนนะครับ เสียงอาจจะดังรบกวนไปหรือเปล่าครับ ฝากหน่วยงานของสยามรวมใจจังหวัดเชียงราย หรือผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วยครับ ด้วยความเคารพจากใจนะครับ ” เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที ก็ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์กว่า 10 คนเข้ามาในปั้มพร้อมรถ จากนั้นก็ตรงเข้ามาชกต่อยตนทั้งสองคน จนมีคนมาห้าม และเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ได้รับแจ้งเหตุได้เข้ามาที่เกิดเหตุ
นายสิทธิโชค กล่าวว่าไม่เคย มีเรื่องกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดนี้แต่อย่างใด จึงมาแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง ที่ชุดกู้ภัยที่ทำตัวไม่ดีนึกจะทำร้ายใครก็ทำ โดยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่นายภูรีวัฒน์ จุนตระกูล หัวหน้ามูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) จุดอำเภอเชียงแสน เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางมูลนิธิได้จัดงานผ้าป่าสามัคคี เพื่อเป็นทุนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ซึ่งมีหลายหน่วยงานมาช่วยงาน ได้มีการขออนุญาตทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และท้องถิ่นแล้ว ตนอยู่ร่วมงานจนถึงประมาณ 3 ทุ่มก็ขอตัวกลับบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า จึงเห็นมีคนโพสต์ในเฟสบุ๊กว่ากลุ่มของตนเปิดเพลงเสียงดังรบกวนคนข้างเคียง จึงโทรไปบอกลูกชุดให้หยุดเล่นเพลง และไปขอโทษคนโพสต์ และขอให้คนโพสต์ช่วยลบโพสต์ดังกล่าว ตนมาทราบภายหลังว่าคนโพสต์กำลังดื่มเหล้าอยู่ที่ปั้ม ปตท.เชียงแสน ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งมูลนิธิฯไปประมาณ 500 เมตร แต่ขณะที่ลูกชุดของตนกำลังพูดคุยกันกับผู้โพสต์ ได้มีบุคคลภายนอกที่มาร่วมในงานผ้าป่าได้ปรี่เข้าไปทำร้ายเจ้าของ และพนักงานร้านคาร์แคร์ดังกล่าว จนปรากฏเป็นข่าวว่อนโลกโซเซียล
“ทางมูลนิธิฯ ไม่มีรถที่ติดชุดเครื่องเสียง รถที่มาใช้เปิดเพลงในงานเป็นรถของคนนอกที่นำมาเปิดช่วยสร้างความครึกครื้นในงานผ้าป่า แต่ไม่คาดคิดว่าจะก่อปัญหาจนเป็นข่าวดังกล่าว ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากมีกิจกรรมภายในมูลนิธิตนก็จะกำชับลูกชุดให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” นายภูรีวัฒน์กล่าว
ทางด้าน ร.ต.อ.ประสงค์ พนักงานสอบสวนเจ้าจองคดีได้กล่าวว่า จะได้เรียกผู้ที่ก่อเหตุมาสอบสวน หากพาดพิงถึงใครก็จะเรียกมาสอบสวนทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น