ฝุ่นควันเชียงใหม่วิกฤต ล่าสุดขึ้นอันดับ 1 ผู้ว่าฯ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทำงานด้วยความอดทน เสียสละ กำชับเฝ้าระวังการเผาในที่โล่ง

สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่า และการเผาของจังหวัดเชียงใหม่ เข้าสู่ช่วงวิกฤตอย่างต่อเนื่อง หลังมีหมอกควันจากไฟป่า เผาลอยสะสมตัวในเขตพื้นที่ อ.เมืองชียงใหม่ ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของ จ.เชียงใหม่ พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

 

ด้านเว็บไซต์ iqair.com ที่รวมรวมสถิติของค่ามลพิษในอากาศจากทั่วโลก เผยว่า จ.เชียงใหม่ พุ่งขึ้นมาเป็นเมืองอันดับที่ 4 ของโลก ที่มีค่ามลพิษในอากาศสูง ดัชนีคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ระดับ 217 หรือสีม่วงขึ้นเป็นอันดับ 1 เตือนประชาชนระมัดระวังสุขภาพ งดกิจกรรมกลางแจ้ง

ขณะที่วานนี้ (5 มี.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน ของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนอำเภอทั้ง 16 อำเภอที่เกิดจุดความร้อน ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อรับทราบและติดตามสถานการณ์ การเกิดจุดความร้อนในอำเภอต่างๆ รวมถึงหารือแนวทางแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM 2.5 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบว่าวันที่ 5 มีนาคม 2564 จังหวัดเชียงใหม่ มีจุดความร้อนเกิดขึ้น จำนวน 141 จุด ในพื้นที่ 16 อำเภอ 38 ตำบล ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอเชียงดาว แม่แตง แม่วาง ดอยเต่า อมก๋อย จอมทอง พร้าว สะเมิง ดอยสะเก็ด ไชยปราการ ฮอด ฝาง แม่แจ่ม สันทราย แม่ออน และอำเภอดอยหล่อ ซึ่งส่วนมากเกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้แสดงความห่วงใย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน เสียสละ ปฏิบัติงานท่ามกลางความร้อนและเสี่ยงต่ออันตราย เพื่อรักษาคุณภาพอากาศที่ดีให้กับประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหากมีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ ที่เกินกำลังการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สามารถร้องขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ปฏิบัติการฯ ได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในห้วงเดือนมีนาคม-เดือนเมษายน ของทุกปี เป็นห้วงที่มีสถิติการเกิดจุดความร้อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือให้ทุกอำเภอให้ความสนใจ และเฝ้าระวังการเผาในที่โล่ง หรือไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอปฏิบัติตามข้อสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเคร่งครัด โดยแจ้งให้อำเภอดำเนินการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ที่อยู่นอกเหนือพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยให้สอบสวนหาสาเหตุการเกิดจุดความร้อนดังกล่าว รวมไปถึงเรียกผู้ที่ครอบครองพื้นที่ และผู้ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่ ที่เกิดจุดความร้อนดังกล่าว มาบันทึกปากคำเพื่อค้นหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งให้จัดชุดสอบสวนแบบบูรณาการ ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ตำรวจ ป่าไม้ เกษตร และเจ้าของพื้นที่ป่า เพื่อนำข้อมูลจุดความร้อนบริเวณพื้นที่ ไปตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ภายใน 24 ชั่วโมง ภายหลังจากได้รับการชี้เป้าของศูนย์บัญชาการฯ พร้อมรายงานผลการตรวจสอบให้ศูนย์ฯ เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น