เชียงใหม่ยังวิกฤต บินไร้คนขับยูเอวี พบจุดเผาป่าหลายจุด มลพิษหมอกควันยังไม่คลี่คลาย อันดับต้นๆ กระทบสุขภาพ ปชช.

สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ ในวันนี้ (9 มี.ค.64) พบว่า สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นวิกฤต และไม่คลี่คลาย โดยสภาพอากาศในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ยังมีกลุ่มหมอกควันปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ ไร้วี่แววกระแสลมมาพัดพาช่วยระบาย ขณะที่ค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เริ่มลดลงเล็กน้อย แต่เกือบทุกจุดยังเกิน 100 มคก./ลบ.ม.และสูงสุดในเขตตัวเมือง วัดได้ที่ ทต.ช้างเผือก ขณะที่รายงานจากเว็ปไซต์ iqair.com รายงาน จ.เชียงใหม่ ยังอยู่ที่อันดับต้นๆ ของเมืองอากาศแย่ที่สุดของโลก

ขณะที่ในวันนี้หน่วยบินจากกองทัพอากาศ ส่งอากาศยานไร้คนขับขึ้นบินตรวจสอบจุดความร้อน จากการเผาป่าพบเกิดไฟป่าหลายจุดในพื้นที่ อ.หางดง อ.สะเมิง อ.แม่วาง อ.แม่ออน และ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ขณะที่หน่วยบินกองทัพบก กลุ่มโดรนและพารามอเตอร์จิตอาสา ร่วมวางแผนบินสำรวจพื้นที่ไฟป่า เพื่อสนับสนุนข้อมูลให้กับทีมดับไฟป่าภาคพื้น หลังวานนี้ตลอดทั้งวัน เกิดจุดความร้อนในภาคเหนือ จำนวน 609 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน  428  จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 160  จุด

ขณะที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ส่งกำลังทหารและทหารพราน 7 ชุดปฏิบัติการร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่า 9 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อประกอบกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน เสือไฟฝ่ายความมั่นคง ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมลาดตระเวนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชน งดการเผาป่าเผาเศษวัชพืชทางการเกษตรในช่วงนี้ เพื่อลดจุดความร้อนจากการเผาในพื้นที่โล่ง

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ต่างมีการสวมหน้ากากอนามัย ประชาชนหลายรายมีการเปลี่ยนจากหน้ากากอนามัย มาสวมใส่หน้ากากชนิด N 95 แทน ที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยแบบปกติ

ขณะที่แพทย์จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกมาเตือนว่าชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ในระยะนี้ควรงดออกกำลังกาย และกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ที่ทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าปกติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น