(มีคลิป) “รฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์” ทีมเสมอภาคพร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ ต.แม่แฝกใหม่ ร่วมอาลัยครบรอบ 1 ปี “พ่อหลวงแดง” พร้อมมอบนโยบายมุ่งเน้นสร้างอาชีพ และรายได้ให้กลุ่มสตรีในพื้นที่

วันที่ 10 มี.ค.64 ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า”จาระธรรม” ต.แม่แฝกใหม่ นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าทีมเสมอภาค พร้อมคณะ ลงพื้นที่ ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ร่วมไว้อาลัย “พ่อหลวงแดง” นิพนธ์ จาระธรรม ที่ถูกไฟคลอกขณะปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ครบรอบ 1 ปี ของการจากไป พร้อมร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าฯ ทำแนวกันไฟบริเวณโดยรอบศูนย์ปฏิบัติการฯ

นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค เปิดเผยว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ป่า ใน จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เป็นวิกฤตการณ์ที่จะต้องได้รับความสนใจ เพราะนอกจากจะสูญเสียพื้นป่าไม้จำนวนมากแล้ว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พลทหาร อาสาสมัคร จิตอาสา ผู้ใหญ่บ้านยังเสียชีวิตขณะเข้าปฏิบัติงานดับไฟหลายคน เป็นเรื่องน่าเศร้าสลดอย่างมาก เราต้อง บูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน โดยเริ่มต้นจากแก้ปัญหาให้ตรงจุดต้นเหตุอย่างเป็นรูปธรรม

 

ศูนย์​ปฏิบัติการ​ป้องกัน​และแก้ไขปัญหา​หมอกควัน​ไฟป่า “จาระธรรม” ต.แม่แฝกใหม่แห่งนี้ นางประนอม จาระธรรม ภรรยาของ นายนิพนธ์ จาระธรรม หรือพ่อหลวงแดง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกไฟคลอกขณะปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่า และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล นานกว่า 1 เดือน จนเสียชีวิต ได้มอบที่ดิน 3 ไร่เศษ พร้อมด้วยเงิน 2 แสนกว่าบาท เพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า “จาระธรรม” แห่งนี้ขึ้น ตามเจตนารมณ์ของ “พ่อหลวงแดง” ที่เคยตั้งใจเอาไว้ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ เข้ามาประจำจุด เพื่อปฏิบัติภารกิจเฝ้าระวัง ดังนี้

จ.ส.อ.สุวิทย์​ ใจตุ่น เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชำนาญการ สำนักปลัด ทต.เจดีย์​แม่ครัว, นายกิตติพงษ์ คุณนา กำนัน ต.แม่แฝกใหม่, นายพิทักษ์ นันตี ผญบ. ม.6, นายนันทพวษ์ เกตุมณี ผญบ. ม.10, นายสามารถ อินต๊ะ ผญบ. ม.13, นายอดุลย์ ​ตานันท์​ ผญบ. ม.2, นายพีพัฒน์​ เป็งชินา ผญบ. ม.3, นายสุบิน ทาว่อง ผญบ. ม.4, นายกมล หน่ออินชัย ผญบ. ม.5, นายสมเพชร ตาวินโน ผญบ. ม.7, นายสุทัศน์​ พวศ์จันทร์​เขียว ผญบ.8, นายนิคม คำตุ่น ผญบ. ม.9, นายไพโรจน์ ​ใจเมคา ผญบ. ม.11, นางสุปราณี​ ศิลป์สังวรณ์​ ผญบ.ม.14 พร้อมด้วย ผู้ช่วยสารวัตร, แพทย์, ในตำบลแม่แฝกใหม่ พร้อมอาสาสมัครป้องไฟป่า อีก 50 กว่าชีวิต

ซึ่งอาสาสมัคร ทางศูนย์ฯได้เปิดรับสมัครจากชาวบ้าน ที่มีอาชีพหาของป่าใน ต.แม่แฝก เพื่อเป็นอาสาสมัครจิตอาสาในการดูแลเฝ้าระวังพื้นที่ป่าในเขตรับผิดชอบ โดยมีการออกบัตรจิตอาสาให้ทุกคน เพื่อเป็น ผู้ช่วยเจ้าพนักงานราชการสอดส่องดูแลบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ในพื้นที่ เข้ามาหาของป่าเพื่อทำประวัติในการเข้าไป รวมถึงที่อยู่ที่ติดต่อได้เพื่อการสอบสวนหากเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่รับผิดชอบ

นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ตนเองได้เดินทาง มาพร้อมกับ นายถิรกร ชัยมงคล, ดร.นิติกร สีเขียว, ดร.ธำรง แผนสมบูรณ์, ดร.ชริตา พลพานิชย์ พร้อมคณะทีมเสมอภาค ลงพื้นที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า “จาระธรรม” ต.แม่แฝกใหม่ เพื่อมาเยี่ยมเยือนครอบครัว นายนิพนธ์ จาระธรรม” หรือพ่อหลวงแดง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการปฏิบัตหน้าที่ดับไฟป่า เมื่อปี 63 ซึ่งถือเป็นบุคลากรอันทรงคุณค่าทางด้านจิตอาสาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย ที่มีจิตอาสาเพื่อพิทักษ์ป่าเพื่อลมหายใจของคนในพื้นที่ฯ

นางรฎาวัญ กล่าวว่า ทางทีมงานเสมอภาคของเราในส่วนของทางเชียงใหม่และภาคเหนือ เราห่วงใยเรื่องสภาพแวดล้อมของ จ.เชียงใหม่ หรือจังหวัดในภาคเหนือ ที่ประสบกับปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผา ซึ่งค่อนข้างจะรุนแรงมาก มีกระทบต่อสุขภาพและที่สำคัญผืนป่าของเราหาย พอป่าหาย ป่าลด แหล่งน้ำขาดแคลน ความยากจนเกิด นอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังทำลายทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย นี่เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และเกิดขึ้นซ้ำซาก ไม่สามารถแก้ไข หรือแก้ไจแล้วก็ลดลงได้บ้างเล็กน้อยเท่านั้นเอง ก็เลยมีแนวทางว่าเราต้องมองที่ต้นเหตุของปัญหา ถ้าเผาในที่ราบก็มีมาตรการอยู่แล้ว โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแล กำหนดวันเวลา ช่วงไหนเผาได้หรือไม่ได้ แต่ในพื้นที่ป่าที่เราเป็นห่วงหรือบริเวณที่เกินกำลังเจ้าหน้าที่ เช่น หน้าผาสูงชัน ต้องให้ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ รวมไปถึงเครื่องมือต่างๆ เป็นต้น

และที่สำคัญเรื่องของแนวกันไฟ ทีมเสมอภาคได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เราจะต้องมาแก้ปัญหากันก่อนที่ฤดูไฟป่าจะมา ต่อไปทุกๆปี เราจะเริ่มต้นที่เชียงใหม่ก่อน และขยายไปจังหวัดต่างๆที่มีปัญหาไฟป่าอยู่บ่อยๆ เราจะต้องรณรงค์กวาดเศษใบไม้ต่างๆ บริเวณแนวกันไฟป่าทุกตารางเมตร แล้วเอาใบไม้เหล่านั้นมาทำปุ๋ยหมัก ซึ่งทางมหาลัยแม่โจ้พร้อมที่จะจับมือร่วมกับเรา ซึ่งทางทีมเสมอภาคจะมอบโครงการนี้ ให้กับกลุ่มสตรีทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ที่อาศัยอยู่ตามแนวกันไฟใกล้พื้นที่ป่า ให้ลุกขึ้นมาเป็นแกนนำ ในการผลิตปุ๋ย จากใบไม้ เศษใบไม้ที่ตกหล่นที่อยู่ตามแนวกันไฟป่าทุกป่าทั่วพื้นที่ เพื่อก่อให้เกิดรายได้ให้กลุ่มสตรี แล้วต่อไปจะเกิดการท่องเที่ยวแบบใหม่ ซึ่งการท่องเที่ยวของคนทั่วประเทศและคนทั่วโลก ที่จะมาช่วยกันกวาดเก็บใบไม้ ตามแนวกันไฟป่า แล้วก็นำมาทำปุ๋ย เพื่อที่จะสร้างสิ่งแวดล้อม

อันนี้จะเป็นกิจกรรมที่ดี ซึ่งจะเป็นกิจกรรมการสร้างสรรค์สังคม เพื่อพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อม ซึ่งป่าไม้ ภาคเหนือ ถือเป็นหัวใจสำคัญของคนทั้งประเทศ “ปิง วัง ยม น่าน” คือสายน้ำที่เกิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือ ไหลรวมกันที่ จ.นครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา หล่อเลี้ยงคนภาคกลางทั้งภาค เพราะฉะนั้นพี่น้องภาคกลาง จะต้องขึ้นมาช่วยกันเก็บใบไม้ขยะตามแนวกันไฟป่าช่วยกัน รวมไปถึงน้องๆ เยาวชน มาร่วมกับพวกเราทีมเสมอภาค เรายินดีต้อนรับท่านแล้ว เราจะมาทำจิตอาสามารวมกัน เพื่อรักษาผืนป่า แล้วก็ทำความสะอาดปอดของพวกเรา แล้วก็ดูแลสุขภาพของพวกเรา แล้วเพิ่มเงินในกระเป๋าของพวกเรา เพราะว่าน้ำจะมีอุดมสมบูรณ์ แล้วเราก็จะนำใบ้ไม้แปรรูป แล้วก็มีกินมีใช้ ในการจุดเริ่มต้นคือต้นไม้แล้ว ก็ป่าไม้ ที่จะไม่ถูกเผา และต้องหยุดในการตัดไม้ หยุดในการเผาแล้วป่าก็จะอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งทีมงานเสมอภาคของเรานั้น ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญเป็นเรื่องใหญ่เป็นหัวใจของทีมงานเราทุกคน เราจะสร้างทีมเสมอภาคของเราในทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้าน ทุกจังหวัดทั่วประเทศ “ความเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง ยุติธรรม” จะทำให้คุณภาพของชีวิตของประชาชนดีขึ้น

 

นี่แค่เพียงเรื่องเดียว เรายังมีเรื่องใหญ่อีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาระบบน้ำทั้งระบบ ธนาคารน้ำใต้ดินต้องสร้างความมั่นคง ทรัพยากรน้ำ ให้กับประชาชนทุกหมู่บ้านทั่วประเทศให้ได้ รวมไปถึงเรื่องของที่ดินทำกินเราต้อง เปลี่ยนระเบียบปรับระบบวิธีการจัดสรรที่ดินกันใหม่ แล้วเราก็จะมาดูกันเรื่องการแปรรูป อุตสาหกรรม แปรรูป สมุนไพรไทย เพื่อก้าวไกลไปสู่สากล เพื่อที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจสีเขียวจากทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ที่เรามีอยู่และตำรับยาไทย ที่เรามีอยู่นั้นก็จะต้องก้าวสู่สากลให้ได้ เป็นสิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องแยกกระทรวงสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยออกมา เพื่อความคล่องตัว เพื่อการยอมรับ เพื่อการพัฒนาและวิจัยต่อยอดให้ได้ และเราจะทำให้สินค้าการเกษตรทุกอย่างนั้นผลิต ปลูก แล้วขายได้คุ้มทุน เรามีวิธีการที่ชัดเจนและทำแบบเป็นรูปธรรม ซึ่งเราอยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่าทีมเสมอภาคของเรา อยากที่จะให้ประชาชน ในทุกเพศทุกวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้ความเสมอภาค เท่าเทียมทั่วถึงและยุติธรรม คนไทยทุกเพศทุกวัยต้องเกิดอย่างมีคุณภาพ อยู่อย่างมีคุณค่าและจากลาอย่างมีศักดิ์ศรี

ร่วมแสดงความคิดเห็น