แจงขั้นตอนเกษตรกรขอปลูกกัญชา

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งว่าการขอรับอนุญาตปลูกกัญชา สำหรับกลุ่มเกษตรกรนั้น กรณีรวม
กลุ่มกันขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อปลูกกัญชานั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ผู้ขออนุญาต ในกรณีประกอบอาชีพเกษตรกรรม ที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน จะต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตร ซึ่งดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลของหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษาต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ เภสัชกรรม หรือเกษตรศาสตร์ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพนั้น ๆ เป็นต้น

“แม้จะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563 ที่ปลดล็อก
ให้ทุกส่วนของกัญชาและกัญชง ไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้น ช่อดอก ใบที่ติดกับช่อดอก และเมล็ดกัญชา ให้ประชาชนปลูกกัญชาและกัญชงได้ ด้วยการตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องรวมตัวกัน 7 คนขึ้นไปเป็นวิสาหกิจชุมชน ทำสัญญาร่วมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานสาธารณสุข”

และผู้ขออนุญาตต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สัญชาติไทย มีที่อยู่ในไทยต้องจัดเตรียมสถานที่ปลูกให้เหมาะสม เช่น สถานที่มีเลขที่ตั้งชัดเจน มีระบบกล้องวงจรปิดยื่นคำขอ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น แผนการปลูก แผนที่สถานที่ปลูกยื่นคำขอที่ อย. กระทรวงสาธารณสุข หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่สถานที่ปลูกตั้งอยู่ ปัจจุบันกฎหมายรองรับเพียงใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น หากจะอนุญาตการปลูก การผลิตต้องปฏิบัติเงื่อนไขต่าง ๆ ซึ่งการปลูกกัญชาเพื่อการค้า สร้างรายได้ตามที่เกษตรกรคาดหวัง ยังต้องรอการพิจารณาตามขั้นตอน

ทั้งนี้งานส่งเสริมเกษตร ระบุว่า พืชทุกชนิดมีคุณสมบัติในการดูดสารอาหารและโลหะหนักแตกต่างกัน กัญชาเป็นพืช
ที่มีคุณสมบัติดูดซับโลหะหนัก 4 ประเภทได้ดี คือ ตะกั่ว แคทเมียม สารหนู และปรอท ดังนั้นการปลูกกัญชาทางการแพทย์ ต้องมีความเข้มงวดตามมาตรฐานเมดิคัล เกรด ต้องปลอดสิ่งปลอมปนทุกประเภท ปกติมีการปลูกอยู่ 3 แบบ คือปลูกในดิน ไม่ว่าจะเป็นดินแท้หรือดินเทียมก็ตาม ปลูกแบบไฮโดรโปนิก หรือปลูกให้รากจุ่มน้ำ และปลูกแบบรากลอย ในส่วนของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่เป็นหน่วยงานที่ได้รับการอนุญาตจาก อย.ปลูกและผลิตกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์

เบื้องต้นได้ที่การสังเคราะห์ตำรับยาไทย จำนวน 96 ตำรับ ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่ม ก. มี 16 ตัว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สูตรชัด วิธีการชัดสามารถใช้ได้เลย ส่วนใหญ่ใช้รักษากลุ่มอาการ ปวด นอนไม่หลับ เป็นต้น กลุ่ม ข.กลุ่มที่มีสูตรชัด แต่วิธีการปรุงยายังไม่ชัด ต้องศึกษาเพิ่มเติมกลุ่ม ค. ต้องศึกษาวิจัย และกลุ่ม ง. กลุ่มที่ยังติดขัดในข้อกฎหมายอื่น ๆ เช่น อนุสัญญาไซเตส เพราะมีการห้ามใช้สมุนไพรบางตัว เป็นต้น หากเกษตรกร สนใจที่จะปลูกกัญชา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานเกษตร,สำนักงานสาธารณสุขทุกอำเภอ หรือ รพ.สต.ใกล้บ้านทุกแห่ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น