จ.แม่ฮ่องสอนเตรียมหลักเกณฑ์การคัดสรรผู้รับทุนการศึกษาพระราชทานพระสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

วันที่ 17 มีนาคม 2564 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมPOC ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมการประชุมชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนงานโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. ปี ๒๕๖๔ ภายใต้“ มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ม.ท.ศ. ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference System) เพื่อให้การดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาฯในปี 2564 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลตามเป้าหมาย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จึงได้จัดประชุมเพื่อชี้แจงแนวปฏิบัติการดำเนินงานในปี 2564 สำหรับทุกจังหวัด

มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร(ม.ท.ศ) เป็นโครงการทุนการศึกษาต่อเนื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนเด็ก เยาวชนไทย ที่เรียนดี ประพฤติดี มีคุณธรรม ด้วยการพระราชทานทุนการศึกษา ม.ปลาย ให้ผู้ที่จบ ม. ๓ มีโอกาสศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขาเป็นความต้องการ และเข้าสู่การมีอาชีพอย่างมั่นคง และเพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องดีงามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศชาติบ่มเพาะวินัย พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ ให้เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ อันจะช่วยสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็งแก่เด็กและเยาวชนไทย ให้เติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพ นำความรู้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นชุมชน ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ ซึ่งดำเนินการมาแล้ว 12 รุ่น ตั้งแต่ปี 2552-2563 จำนวน 1,935 ราย รวมเงินทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ที่จัดสรรไปแล้ว 533.99 ล้านบาท


โดยในปีนี้ ให้เน้นความเข้มข้นในการคัดเลือก คัดสรร นักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ.รุ่นที่ 13 ปีการศึกษา 2564 โดยยึดหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการคัดเลือก คัดสรรที่กำหนดตามคู่มืออย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการลงเยี่ยมบ้าน การสอบทานข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติที่ดีงามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติและสอบทานความสมัครใจ การรับรู้ข้อมูลโครงการ ม.ท.ศ. และการติดตามนักเรียนที่ได้รับทุนใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ โดยจะต้องมีการรายงานผลการประเมินความเครียดและภาวะซึมเศร้าตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ขอรับทุนด้วย ซึ่งไม่จำกัดส่วนชายหญิงผู้ขอรับทุนในแต่ละจังหวัด จะต้องยึดหลักสามหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก คัดสรรผู้รับทุน 1.เกณฑ์เรียนดี จบม.3 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.00 มุ่งมั่นจะเรียนต่อจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 2.เกณฑ์ความประพฤติดี ไม่บกพร่องในศีลธรรมมีทัศนคติที่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 3.เกณฑ์ความพร้อมที่จะเข้ารับการฝึกและพัฒนาศักยภาพ มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง เข้าใจและพร้อมเข้ารับการฝึกทักษะต่างๆ โดยให้น้ำหนักความสำคัญทั้ง 3 เกณฑ์ เท่าๆกัน และเปิดให้คณะกรรมการจังหวัดกำหนดรายละเอียดภายในเกณฑ์แต่ละด้านได้ตามบริบท ของจังหวัดตนเอง

ร่วมแสดงความคิดเห็น