เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 พล.ต.สมเกียรติ มาลากรณ์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วย พ.อ.นิโรธ ฉายากุล และ พ.อ.หญิง นงนภัส พินกลาง ร่วมเสวนากับทีมสหวิชาชีพให้รู้เท่าทันการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับส่วนราชการและภาคประชาชน เพื่อเพิ่มความรู้และสร้างความตระหนักรู้ ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ให้รู้เท่าทันการค้ามนุษย์ ระหว่างวันที่ 22 – 23 มีนาคม 2564 ที่พิซชาพร เฮ้าส์ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยมี พ.ต.อ.ภาสวินท์ แก้วต่าย ผกก.สภ.เมือง เป็นประธาน
โดยผู้แทนทีมสหวิชาชีพ ส่วนราชการและภาคประชาชน ได้นำเสนอแนวทางการดำเนินการเพื่อเรียนรู้เท่ากันการค้ามนุษย์ และแนวทางในการแก้ปัญหาการการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า จ.แม่ฮ่องสอน ยังมีปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำซึ่งเกิดจากบริบทและสภาพแวดล้อมที่เข้าถึงยาก ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข ปัญหาครอบครัว ความยากจน และค่านิยมที่เปลี่ยนไปในสังคมโลกดิจิทัล การปรับตัวในบริบทของแม่ฮ่องสอน ควรยึดหลักสังคมพอเพียง โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน การปลูกฝังค่านิยม การดำรงชีวิตบนพื้นฐานของความพอเพียง การเพิ่มหลักสูตรวิชาเกี่ยวกับภัยจากการค้ามนุษย์ ทักษะการแก้ไขปัญหาชีวิต และการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดกับผู้กระทำผิดและเจ้าหน้าที่ โดยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ให้ครอบคลุมเข้าถึงผ่านสื่อดิจิทัลและสื่อบุคคล
พ.อ.นิโรธ ฉายากุล กล่าวว่า จ.แม่ฮ่องสอน มีจุดแข็งคือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ สิ่งน่าสนใจ สำหรับในเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในพื้นที่ มีหน่วยงานหลักคือสำนักงานตรวจเข้าเมือง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ จัดหางานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.แม่ฮ่องสอน บูรณาการส่วนราชการอื่นๆ เพื่อสร้างเครือข่ายการเฝ้าระวัง สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน มีคดีการค้ามนุษย์อยู่ในระดับน้อย ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาประกอบอาชีพในภาคเกษตร ปัญหาจากการลักลอบออกนอกพื้นที่ของศูนย์อพยพในแม่ฮ่องสอน ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายในการเฝ้าระวัง
ทั้งนี้ จะมีการสร้างเครือข่ายรู้เท่าทันการค้ามนุษย์ โดยจะมีการอบรมเครือข่ายเยาวชนเพื่อแจ้งเตือนเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ ซึ่งในพื้นที่จะสามารถป้องกันได้โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกมิติ คณะกรรมการหมู่บ้านต้องเข้มแข็ง ภาคประชาชนต้องร่วมกันเฝ้าระวังป้องกัน สกัด ระงับ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้น พบเบาะแส แจ้งสายด่วน ได้ที่ กอ.รมน 1374 สำนักนายก 1111 ศูนย์ดำรงธรรม พ.อ.มงคล ปานำมา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จะนำข้อมูลการค้ามนุษย์และแรงงานต่างด้าวที่พบไปขยายผล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อ จ.แม่ฮ่องสอน ต่อไป
พล.ต.สมเกียรติ มาลากรณ์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วน สำหรับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 มีหน้าที่ดูแลด้านการค้ามนุษย์ การจัดระเบียบสังคม แรงงานต่างด้าว และยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานาน จ.แม่ฮ่องสอน ต้องมีความเชื่อมั่นในการจัดการตนเอง โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ข้าราชการต้องเข้าถึงประชาชน สำหรับการก้าวให้ทันต่อกระแสโลก การพัฒนาทักษะในการอยู่ร่วมกัน ต้องปรับตัวทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มเด็กหรือวัยรุ่น ควรเปิดใจรับฟังให้มากขึ้น เพื่อจะได้รับข้อมูลที่สะท้อนในการป้องกันปัญหาได้จริง ทั้งนี้ จะได้นำข้อเสนอไปเพื่อผลักดันให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ต่อไป
สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน เคยเป็นข่าวโด่งดังเกี่ยวพันกับการค้ามนุษย์ กรณีนกฮูก ทั้ง เคสแรก และเคสที่สอง แต่เรื่องก็ยังอยู่ในความทรงจำของชาวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่หวังว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะดำเนินมาตรการตามหน้าที่และกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากต่างมองว่า คนที่ติดคุกเป็นแค่ระดับล่าง ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงกลับลอยนวลมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมองว่า ถ้าเป็นคนมีเส้นสาย กฎหมายจะสาวไม่ถึง
ร่วมแสดงความคิดเห็น