เกษตรที่สูง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม สร้างการรับรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดแม่ฮ่องสอน (เกษตรที่สูง) จัดกิจกรรม กิจกรรม สร้างการรับรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2564 จากการสนับสนุนและบูรณาการ การทำงานร่วมกันจากภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร มูลนิธิโครงการหลวง สำนักงานจังหวัด และกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมี นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เดินทางมาเป็นประธานเปิดกิจกรรม

นายยงยุทธ อ่อนอุระ ผู้อำนวยการ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดแม่ฮ่องสอน ( เกษตรที่สูง ) กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง ให้แก่เกษตรกรในวันนี้ เพื่อที่เกษตรกรจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง โดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร เกษตรที่สูงทั้ง 8 ศูนย์ ที่นำเทคโนโลยีการผลิต ที่ประสบความสำเร็จมาแสดง และถ่ายทอดให้กับเกษตรกรผู้มาร่วมงานครั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการสร้างการรับรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเกษตรกรและส่งเสริมให้เกษตรกรไทย มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีเป้าหมายผู้ร่วมงาน จำนวน 260 คน แบ่งเป็นเกษตรกรและเครือข่าย 150 คน เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฎิบัติการ 8 ศูนย์ รวม 70 คน เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอ 20 คน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาคีเครือข่าย 20 คน มีรูปแบบการถ่ายทอด โดยใช้จุดนิทรรศการของศูนย์ปฏิบัติการ จัดเป็นฐานเรียนรู้ให้แก่เกษตรกร จำนวน 8 ฐาน ประกอบด้วยฐานการแปรรูป และพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟอาราบิก้า ฐานการเปลี่ยนยอดพันธุ์ดี ของอะโวคาโด ฐานการปลูกคื่นฉ่ายในวัสดุปลูก ฐานการทำกับดักมอดเจาะผลกาแฟ ฐานการใช้พันธุ์ดีเพื่อพัฒนาคุณภาพอะโวคาโด ฐานการแปรรูปผลผลิตภัณฑ์จากบุก ฐานระบบการให้น้ำพืชทางการเกษตร และฐานการผลิตเห็ดขอนดำให้ได้ผลผลิตสูง อันจะทำให้เกิดการรับรู้เทคโนโลยีการผลิตที่ประสบความสำเร็จ ของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (เกษตรที่สูง) และนำความรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง ที่ถูกต้องและเหมาะสม กับศักยภาพพื้นที่ ไปพัฒนาอาชีพทางการเกษตรของตนเองได้ เกิดประโยชน์แก่ตัวเกษตรกรและองค์กร โดยสามารถนำไปปรับใช้ในการทำการเกษตร ให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น