(มีคลิป) อ.เฉลิมชัย เตือนพี่น้องศิลปิน เบา ๆ บ้าง ศิลปะมีอิสระภาพ คุณค่าของงานอยู่ในตัวของมันเอง

อ.เฉลิมชัย ได้เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก คนสนิท เตือนพี่น้องศิลปิน เบา ๆ บ้าง อย่าทะเลาะกัน ศิลปะมีอิสระภาพ คุณค่าของงานอยู่ในตัวของมันเอง เดี๋ยวทุกอยางก็เงียบหาย เรื่องที่เกิดขึ้นตนมองในมุมดี เพราะจะทำให้ประชาชนรู้ว่าอันนี้เป็นศิลปะหรือไม่เป็นศิลปะ ส่วนพี่น้องศิลปินที่ขัดแย้งกัน ก็ขอให้เก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้บ้าง

วันที่ 25 มี.ค.64 อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ได้เปิดใจผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “นรินทร ทามาส” ซึ่งเป็นของลูกศิษย์ใกล้ชิด โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเห็นต่อความขัดแย้ง เรื่องผลงานศิลปะที่ผ่านมาว่า จึงอยากขอให้พี่น้องศิลปินให้เบา ๆ ลงหน่อย เพราะตามปกติศิลปินพวกเรากันเอง ก็มีความขัดแย้งกัน และไม่รู้จะตอบโจทย์เรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร ศิลปะนั้นมีอิสระภาพ โดยมาจากความรู้สึกของศิลปิน ผลงานก็ออกมาตามนั้นซึ่งเป็นเรื่องของผู้สร้างผลงาน โดยมีเนื้อหาว่า

“สวัสดีผู้ที่ติดตามความขัดแย้งในวงการศิลปะของผม ซึ่งผมก็มีความเป็นห่วงเป็นใยมาก สำหรับตาแก่คนหนึ่งซึ่งไม่นานก็ตายแล้ว ก็เป็นห่วง ว่าความแตกแยกเช่นนี้จะเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อลูกหลานวงการศิลปะข้างหน้า ขอให้ทุกท่านทุกคน พี่น้องศิลปินก็เบา ๆ ลงหน่อย ศิลปะแม้กระทั่งพวกเรากันเองก็มีความขัดแย้งกัน ไม่รู้จะตอบโจทย์อย่างนี้ต่อประชาชนอย่างไร แล้วเราจะไปโทษประชาชนไม่ได้ ซึ่งเห็นว่าประชาชนเขียนคอมเมนต์ดุเดือด รุนแรงมาก อันนั้นไม่ผิด เพราะท่านไม่เข้าใจ ท่านก็ต้องเขียนตามความเข้าใจของท่าน ดังนั้นจึงมีคอมเม้นต์เข้ามาทั้งที่มีความรู้บ้างและไม่มีความรู้บ้าง ดังนั้นพวกเราก็ต้องยอมรับว่าพวกเราเป็นเป้า ที่ทำให้พี่น้องประชาชนใช้ความคิดเห็นของประชาชนมากมาย ซึ่งผมอยากจะฝากบอกว่า ศิลปะนั้นมีอิสระภาพเสรี ศิลปะมาจากความรู้สึกของศิลปินว่าในขณะนั้น รู้สึกกับอะไร เขาจึงสามารถสร้างความรู้สึกแบบนั้นได้ เช่นเขารักความสวยงาม รักโลก รักธรรมชาติความสวยงาม เค้าก็จะเขียนตามที่เขารัก บางคนเป็นคนเคร่งเครียด เขาก็จะสร้างงานศิลปะที่ออกมาดุดัน เคร่งเครียด น่าเกรงขาม มันเป็นความรู้สึกของผู้สร้างงานศิลปะ ดังนั้น ศิลปะที่ดุเดือนดุดันเหล่านั้น ต้องดูว่าผลงานชิ้นนั้นมีคุณค่าไหม บางชิ้นก็มีคุณค่ามากมามหาศาล บางชิ้นก็ไร้ค่า ดังนั้นศิลปะเค้าจึงดูกันที่คุณค่า

คุณค่าของงานศิลปะคือ ทำอะไรก็ได้ รู้สึกอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ทุกเรื่อง แต่ว่าต้องดูว่ามีคุณค่าทางศิลปะไหม ความสุนทรียภาพในคุณค่าในสิ่งที่เขาสร้างนั้นมีไหม ถ้ามีนั่นคือศิลปะ ถ้าไม่มี นั่นไม่ใช่ศิลปะ อันนี้แหละที่เข้าใจได้ยากว่ามันเป็นศิลปะหรือไม่เป็น ดังนั้นพี่น้องศิลปิน ผู้รักในงานศิลปะ นักวิจารย์ศิลปะ หรือผู้ที่คลุกคลีกับวงการศิลปะ นักสะสมภาพ จะรู้ว่า อันไหนใช่ หรือไม่ใช่ แต่หากเป็นคนทั่วไปที่ไม่เคยรับรู้ถึงงานศิลปะมาก่อน ก็จะตัดสินได้ยาก ซึ่งพวกเรารู้ ดังนั้นพวกเราศิลปินก็อย่าทะเลาะกันเลย ต่างคนต่างเดินทางของตัวเอง แนวคิดของตัวเอง ความรู้สึกของตัวเองในการแสดงออก ฝากพี่น้องด้วย ส่วนประชาชนเป็นเรื่องเข้าใจยากจริง ๆ แต่เชื่อว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวทุกอยางก็เงียบหาย กรณีเรื่องที่เกิดขึ้นตนมองในมุมดี เพราะจะทำให้ประชาชนรู้ว่าอันนี้เป็นศิลปะหรือไม่เป็นศิลปะ ส่วนพี่น้องศิลปินที่ขัดแย้งกัน ก็ขอให้เก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้บ้าง” อ.เฉลิมชัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น