เพลิงไหม้โรงงานปั่นนุ่น อ.เมืองแพร่ เผาผลาญพินาศ เกือบ 2 ล้านบาท

เหตุการ์จากไฟฟ้าลัดวงจรรายนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 27 มีนาคม 2564 เวลา 13.05 น.ขณะที่ ร.ต.อ.นาวิน สมหมาย รองสว.สอบสวน สภ.ห้วยม้า อ.เมือง จ.แพร่ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวันสภ.ห้วยม้า รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้โรงงานนุ่น ม.3 ต.บ้านถิ่น อ.เมืองแพร่ ให้ตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.กิตติพันธ์ เสนาอุดร ผกก.สภ.ห้วยม้าทราบและรุดไปที่เกิดเหตุแจ้งรถดับเพลิง ทต.บ้านถิ่น ทต.สวนเขื่อน อบต.ร่องฟอง อบต.ห้วยม้า ไปร่วมดับเพลิง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงได้ลุกไหม้โรงงานนุ่น พังเสียหายทั้งหลัง ภายในประกอบด้วย เครื่องมือปั่นนุ่น นุ่น และที่นอน เสียหายทั้งหมด โดยเฉพาะตัวโรงงานที่เป็นโครงเหล็ก ผสมไม้ พังเสียหายทั้งหลัง เพลิงยังได้ลุกไหม้ ส่วนเลี้ยงกระต่ายในพื้นที่ กระต่าย ตายในกองเพลิงอีก 5 ตัว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้อง ช่วยกันดับเพลิงทั้งในโรงงานและนอกโรงงาน ที่เป็นป่าไม้แห้ง ๆ หวั่นว่า จะลุกลามใหญ่โต ใช้เวลา 2 ชั่วโมง กว่าจะควบคุมเพลิงได้

 

จากการให้การของนางสิริรัฐ ถิ่นกันทา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่146/2 ม.3 ต.บ้านถิ่น อ.เมืองแพร่ ให้การว่าขณะเกิดเหตุ มีตนเองทำงานใส่นุ่น อยู่ในโรงงานคนเดียว เพราะคนอื่นไปกินข้าวยังไม่กลับ แต่ระหว่างที่ตนเองก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่นั้น มารู้สึกตัวเมื่อ จู่ ๆ ก็เห็นไฟไหม้ ตามสายไฟ เสาโรงงาน ผนั่ง และลุกไหม้เพดานหลังคาอย่างรวดเร็ว จนทำอะไร ไม่ทันเพราะไฟลุกไหม้เร็วมาก จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาจากโรงงานแล้วแจ้งตำรวจ ต่อมามีคนเห็นเหตุการณ์ ได้เข้าช่วยกันเก็บของ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และของอื่น ๆ ออกจากส่วนที่เป็นที่พัก เพราะเกรงว่า ไฟจะลุกลามมาไหม้

ทางด้าน นายรักษ์ ศิลปรายะ อายุ 65 ปี คนดูแลโรงงานให้การว่า โรงงานเป็นทรัพย์สินของธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ตนเองดูแลอยู่ มีคนงานเป็นญาติ ๆ กันทำงาน 5 คน ระหว่างเกิดเหตุ ไปธุระในตัวเมืองแพร่ เมื่อกลับเข้ามาก็เห็นไฟไหม้โรงงานแล้ว เบื้องต้นค่าเสียหายททั้งหมดประมาณ 1,500,000 บาท เนื่องจากมีนุ่น และที่นอนมาใหม่จำนวนมาก สาเหตุน่าจะเกิดจากอากาศร้อนทำให้ไฟฟ้าลัดวงจน จนเกิดความร้อนในโรงงาน ที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้จะต้องให้ทางธนาคารมาตรวจสอบอีกครั้ง

ร.ต.อ.นาวิน สมหมาย รองสว.สอบสวนสภ.ห้วยม้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ด้บันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน และจะได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.แพร่เข้ามาตรวจสอบสาเหตุการไหม้ที่แท้จริงต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น