ผลักดันผู้ลี้ภัยบ้านสะกอท่า กลับคืนพม่า

เจ้าหน้าที่ทหารพรานของไทย ประจำฐาน ฯ บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ผลักดันผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ที่บ้านสะกอท่า กลับคืนสู่พม่า หลังตกใจเฮลิคอปเตอร์ของพม่าบินวนเหนือหมู่บ้าน หวั่นถูกโจมตี ขณะที่สื่อมวลชนถูกสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างหนัก

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 14.00 น.ได้มีราษฎรกะเหรี่ยงในเขตปกครองของกะเหรี่ยง KNU บ้านสะกอท่า จำนวน 8 ครอบครัว 46 คน รวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ได้ข้ามแม่น้ำสาละวินเข้ามาในฝั่งไทย ใกล้กับ จุดชมวิวสาละวิน 2 ห่างจากบ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กม.

การหลบหนีเข้ามาในเขตไทยของชาวกะเหรี่ยงเหล่านั้น สาเหตุมาจาก ได้มีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ของทหารพม่า จำนวน 2 ลำ ได้มาบินวนเวียนเหนือหมู่บ้านสะกอท่า ซึ่งมีบ้านเรือนของประชาชน และฐานที่มั่นทางทหารของกะเหรี่ยง KNU อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ราษฎรชาวกะเหรี่ยงเหล่านั้นเกิดความตกใจกลัวและหวาดผวาว่าจะถูกเครื่องบินโจมตีเหมือนกับที่ บ้านดิปุโหน่ ที่ถูกโจมตีมาแล้ว 2 ครั้งในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์ที่บ้านแม่สามแลบ ยังคงเงียบเหงา ร้านค้าได้ปิดตัวลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และส่วนใหญ่เจ้าของร้านจะเป็นคนต่างถิ่นได้พากันปิดร้านและออกไปจากหมู่บ้านเพราะหวั่นเกิดการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกะเหรี่ยง KNU แต่พบว่ายังมีสื่อมวลชนต่างประเทศและสื่อ ฯในไทย จำนวนหลายสำนักยังคงปักหลักในบริเวณบ้านแม่สามแลบ

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ ที่มีผู้ลี้ภัยเข้ามาในไทยดังกล่าว สื่อมวลชนที่ทราบข่าว ได้พากันเดินทางไปจุดที่มีการอพยพเข้ามาแต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานในพื้นที่สั่งห้ามทำข่าวอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงการห้ามเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านต่าง ๆ ตามแนวชายแดน และหมู่บ้านชั้นใน ทั้งที่หมู่บ้านเหล่านั้น ไม่ใช่จุดที่มีผู้อพยพจากพม่าเข้าไปอาศัยอยู่แต่อย่างใด จนทำให้ดูเหมือนเป็นการจำกัดสิทธิของสื่อมวลชนอย่างชัดเจน

ร่วมแสดงความคิดเห็น